xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแพร่เดือดร้อนหนัก! น้ำหลาก 2 ปีติด-น้ำยมเปลี่ยนทาง ตัดขาดที่มีโฉนดกว่า 900 ไร่ ร้องรัฐช่วยยังเฉย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพร่ - ชาวบ้านเดือดร้อนกันหมดทั้งสองตำบล..ฝนถล่มน้ำหลาก 2 ปีติด ทำน้ำยมเปลี่ยนทาง-สะพานโดนซัดพัง ตัดขาดที่ดินทำกินกลายเป็นเกาะกว่า 900 ไร่ เกษตรกรเข้าเก็บผลผลิต ทำกินฤดูกาลใหม่ไม่ได้ตั้งแต่ปี 67 จนถึงวันนี้ ครวญหน่วยงานภาครัฐมาดูแล้วเงียบ


ตัวแทนเกษตรกร 50 ครอบครัว จากหมู่ 3 หมู่ 9 หมู่ 10 ต.บ้านกลาง และ ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำยม ซึ่งเชื่อมระหว่างบ้านกลางกับบ้านวังดิน ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ ที่อยู่ในสภาพชำรุดถูกกระแสน้ำจากแม่น้ำยมตัดขาดมาเป็นปีที่ 2 แล้ว รถยนต์ผ่านเข้าออกไม่ได้-สะพานชั่วคราวใช้ได้เพียงรถจักรยานยนต์เท่านั้น

น้ำหลากเมื่อปี 67 ยังทำให้แม่น้ำยมเปลี่ยนทิศทาง ลำน้ำด้านทิศใต้ของสะพานฯ แยกตัวออกเป็น 2 สาย มวลน้ำเข้าทำลาย/ตัดที่ดินมีโฉนดที่ชาวบ้านถือครองมาหลายชั่วอายุคนบริเวณที่เรียกว่า "ป่างิ้วงาม" ที่มีโฉนดกลายเป็นท้องน้ำ และแม่น้ำเส้นใหม่ตัดที่ดินทำกินจนกลายเป็นเกาะกินพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านกว่า 900 ไร่

ปัจจุบันชาวบ้านไม่สามารถเข้าทำกินได้ เรียกร้องให้ทางราชการปรับพื้นที่ให้กลับมาเหมือนเดิม หรือเร่งสร้างสะพานชั่วคราว หรือถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ควรทำแพขนานยนต์ให้พอนำรถไถ เครื่องจักร รถปิกอัพเข้าพื้นที่ทำการเกษตร/ลำเลียงข้าวโพดออกมาขายก็ยังพอทุเลาความเดือดร้อนไปได้บ้าง


นายสุรัตน์ ใจพริ้ง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 6 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ หนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนกล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้น ตั้งแต่น้ำท่วมลุ่มน้ำยม วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ช่วงนั้นมีการทำทางชั่วคราวให้เกษตรกรได้เข้าไปทำกิน แต่พอมาวันที่ 23 -24 กรกฎาคม 2568 น้ำท่วมใหญ่อีกรอบ ทำให้สถานการณ์เลวร้ายหนักขึ้น

หน่วยงานของรัฐ เช่น กรมทางหลวง ชลประทาน ฝ่ายปกครอง นายอำเภอสอง อบจ.แพร่ ฯลฯ มาดูสถานการณ์ความเดือดร้อนแล้วก็รับปากกับชาวบ้านว่าจะเร่งช่วยเหลือ แต่จนถึงขณะนี้ทุกหน่วยงานหายหน้าไปหมดปล่อยให้ชาวบ้านเผชิญกับความเดือดร้อนเพียงลำพัง


นายสุรัตน์กล่าวด้วยว่า ที่ดินตนซึ่งมีโฉนดอยู่ในพื้นที่ถูกตัดขาด 2 แปลง รวม 8 ไร่ ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นรายได้นำมาจุนเจือครอบครัว แต่ปีนี้ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ถ้าทางราชการไม่ยื่นมือมาช่วย ครอบครัวคงได้รับความเดือดร้อนหนัก ซึ่งในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดมีเกษตรกรที่หาเช้ากินค่ำจำนวน 50 รายต้องประสบปัญหาเดียวกัน

นางลั่นทม วังขีด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 9 บ้านวังดิน ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ กล่าวว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมากแต่ทางราชการไม่เร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยอ้างว่า การฟื้นฟูพื้นที่ต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก ขณะที่ผู้ได้รับความเดือดร้อน มีจำนวนน้อยไม่คุ้มกับการลงทุน คิดแล้วก็รู้สึกน้อยใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน พยายามที่จะช่วยเหลือกันเองเนื่องจากรอการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ล่าช้าไม่ได้ แต่ปัญหานั้นใหญ่เกินกำลังที่ชาวบ้านจะทำได้
กำลังโหลดความคิดเห็น