xs
xsm
sm
md
lg

ที่ปรึกษา รมว.ทส. ลุยอช.กุยบุรี ตรวจสอบใช้ “รถราชการ” รับนักท่องเที่ยวแทนรถชาวบ้าน พบผิดระเบียบจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ – “ชัยวัฒน์” ที่ปรึกษา รมว.ทส. ลงพื้นที่สวนสัตว์ป่ากุยบุรี ตรวจสอบข้อร้องเรียนหลังพบมีการนำรถราชการติดตรากรมอุทยานฯ ให้บริการนักท่องเที่ยวแทนรถชาวบ้าน พบข้อเท็จจริงสอดคล้องคำร้อง ชี้ใช้รถหลวงวิ่งบริการนักท่องเที่ยวโดยไม่มีตั๋วและเบิกน้ำมันจากงบราชการ เตรียมเสนอ รมว.ทส. สั่งสอบวินัยหัวหน้าอุทยานฯ

วันนี้ (27 ต.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนของชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ช้างป่ากุยบุรี หลังแจ้งว่ามีการนำรถยนต์ราชการที่ติดตราสัญลักษณ์กรมอุทยานฯ ออกให้บริการนักท่องเที่ยว โดยอ้างว่าเป็น “รถของหัวหน้าอุทยานฯ” สามารถทำได้ และมีการแทรกคิวรถของชาวบ้านที่จดทะเบียนถูกต้องตามระบบ

กลุ่มชาวบ้านกว่า 50 คัน ซึ่งรวมตัวให้บริการนักท่องเที่ยวชมช้าง กระทิง และสัตว์ป่าอื่น ๆ ภายในเขตอุทยานฯ ได้ร้องเรียนว่า รถราชการดังกล่าวเข้ามาวิ่งรับนักท่องเที่ยวเป็นคันแรกทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นมา

นายชัยวัฒน์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาคสนามและร่วมสังเกตการณ์ระบบการท่องเที่ยว พบว่ามีรถยนต์ราชการติดตรากรมอุทยานฯ จำนวน 3 คัน วิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวโดยไม่ได้ออกตั๋วค่าโดยสาร 850 บาทตามระเบียบ และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่รถหลวงดังกล่าวใช้งบประมาณราชการเบิกค่าน้ำมันตามปกติ

จากการประสานงานกับนายนิทัศน์ นุ่นสง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปราม ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบ พบข้อมูลตรงกับคำร้องเรียนของชาวบ้านทุกประการ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ที่ขับรถและร่วมปฏิบัติงานให้การตรงกันว่า ได้รับคำสั่งจากนายอนุชาติ อาจหาญ หัวหน้าอุทยานฯ ให้ใช้รถราชการวิ่งบริการนักท่องเที่ยว โดยอ้างว่าเป็น “สวัสดิการเจ้าหน้าที่” และดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ถึงปัจจุบัน มีรถหลวงหมุนเวียนให้บริการรวม 6 คันต่อวัน รายได้ถูกโอนเข้าบัญชีเจ้าหน้าที่ในชื่อกองทุนสวัสดิการ

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านผู้ให้บริการรถนำเที่ยวร้องเรียนกรณีดังกล่าวหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีหน่วยงานใดลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ภาพถ่าย และคำให้การของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไว้ทั้งหมด เพื่อรายงานต่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษา รมว.ทส. เพื่อดำเนินการตามระเบียบและพิจารณาทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

“การนำรถราชการมาใช้หาผลประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและสร้างความเสียหายต่อระบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชุมชน ซึ่งกระทรวงจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายชัยวัฒน์ กล่าวย้ำ








กำลังโหลดความคิดเห็น