เชียงราย - ตร.เชียงราย รวบทั้งหนุ่มไทยหนุ่มจีน หนึ่งส่งบัญชีม้าข้ามโขงเข้าคิงส์โรมันริมฝั่งสามเหลี่ยมทองคำ อีกหนึ่งพก ATM กว่า 2,000 ใบ ตระเวนกดเงินตามคำสั่งบอสเชื้อชาติเดียวกัน
วันนี้ (24 ต.ค.) พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยชั่งคิด รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.อนุพันธ์ กันถารัตน์ ผกก.สภ.เชียงแสน และ พ.ต.ท.กิติภูมิ กันจินะ รอง ผกก.สส.สภ.เชียงแสน พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว จ.เชียงราย แถลงผลการจับกุมคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
คดีแรกเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายรุ่งโรจน์ อายุ 35 ปี ชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 35 เล่ม บัตรเอทีเอ็มจำนวน 38 ใบ ซิมการ์ดโทรศัพท์จำนวน 39 อัน
ก่อนการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบส่งพวกซิมการ์ด-บัญชีม้า-บัตรเอทีเอ็ม ไปให้กับกลุ่มคนจีนใน สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน เพื่อนำไปให้ขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งสแกมเมอร์ จึงได้ออกสืบสวน
กระทั่งทราบว่ามีผู้รับพัสดุจากเอกชนรับขนส่งพัสดุบริเวณริมแม่น้ำโขงหน้าจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่จึงเขัาไปตรวจสอบพบนายรุ่งโรจน์เป็นผู้รับพัสดุ เมื่อเปิดตรวจสอบก็พบของกลางบางส่วน จึงได้ขยายผลไปตรวจยึดของกลางเพิ่มเติมที่ค้างอยู่ สนง.เอกชนรับขนส่งพัสดุสาขาเชียงแสนได้ทั้งหมด
อีกรายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ที่ตรวจตราบริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ ถนนธนาลัย ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย พบ Mr.HU HAOJIE หนุ่มจีนอายุ 35 ปี ท่าทางมีพิรุธ พบเป็นชาวมณฑลหูเป่ย ถือหนังสือเดินทางระหว่างประเทศ
เมื่อขอตรวจสอบสัมภาระ ก็พบของกลางบัตรเอทีเอ็มจำนวนมากและสลิปการโอนเงินหลายรายการ จึงประสาน พล.ต.ต.โอฬาร เอี่ยมประภาส ผบก.ทท.2, พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ โชตกลาง รอง ผบก.ทท., พ.ต.อ.พงษ์พิเชษฐ์ นิลจันทร์ ผกก.2 บก.ทท.2, พ.ต.ท.มนต์ชัย มะลิพวง, พ.ต.ท.พิษณุ เตรียมดี รอง ผกก.2 บก.ทท.2 นำกำลังเข้าตรวจที่ห้องพักโรงแรมในตัวเมืองเชียงราย
กระทั่งพบของกลางเพิ่มเติม ประกอบด้วย บัตรเอทีเอ็มจำนวน 2,057 ใบ เป็นของธนาคารออมสิน 891 ใบ ธนาคารกสิกรไทย 662 ใบ ธนาคารกรุงเทพ 503 ใบ ธนาคารธนชาติ 1 ใบ และเงินสดจำนวน 539,900 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง สอบถามเบื้องต้นชายชาวจีนบอกว่าได้กดโอนเงินตามคำสั่งของชาวจีนอีกคนที่ติดต่อกันผ่านทางแอปพลิเคชั่น Lark
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาต่อทั้ง 2 คนว่า "มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบไว้ในครอบครองเพื่อนำออกใช้ ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ,เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝากหรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” และนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.


