xs
xsm
sm
md
lg

ช็อก! สาวโรงงาน 606 ชีวิต มาทำงานวันสุดท้ายไม่รู้ตัว นายจ้างประกาศปิดกิจการ–แจกเช็กชดเชย 95 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม – สะเทือนใจสาวโรงงานเย็บผ้ากว่า 600 ชีวิต หลังเข้าทำงานตามปกติแต่ต้องช็อกเมื่อผู้บริหารประกาศเลิกจ้างทันที โดยนายจ้างแจกเช็กค่าชดเชยรวมกว่า 95 ล้านบาท หลังแบกภาระไม่ไหวเพราะพิษเศรษฐกิจและคำสั่งซื้อลดลงต่อเนื่อง

วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่โรงงานเย็บผ้าบริษัท พาฝันเท็กซ์ไทล์ จำกัด ตั้งอยู่หมู่ 4 ตำบลสันปทวน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หลังเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับพนักงานจำนวน 606 คน ซึ่งต่างทยอยนั่งรถบัสของบริษัทกลับบ้านด้วยความเงียบงันและน้ำตาคลอ เพราะวันนี้คือ “วันทำงานวันสุดท้าย” โดยไม่มีใครล่วงรู้มาก่อน

ช่วงสายของวัน ผู้บริหารและฝ่ายบุคคลของบริษัทได้เรียกประชุมพนักงานทั้งหมด พร้อมประกาศอย่างเป็นทางการว่า โรงงานจำเป็นต้อง “เลิกจ้างทั้งหมด” เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยาวมาถึงปัจจุบัน ทำให้คำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลงอย่างมาก ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้


บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความตกใจและเศร้าใจ หลายคนถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อผู้บริหารประกาศข้อความขอบคุณและขออำลา โดยมีการแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นจากฝ่ายบริหารต่างชาติ เพื่อแสดงความเสียใจและขอบคุณพนักงานทุกคนที่ร่วมทำงานกันมานาน

จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครปฐม นำโดย น.ส.สุกิจจา วินิชพันธุ์ ประกันสังคมจังหวัดนครปฐม มอบหมายให้ น.ส.แววตา แก้วเจริญ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ พร้อมทีมจากกระทรวงแรงงาน เข้าชี้แจงขั้นตอนการขอรับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงาน และแนวทางขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วัน เพื่อให้ได้รับเงินชดเชยจากกองทุนประกันสังคมในอัตรา 60% ของค่าจ้าง นาน 180 วัน


หลังเสร็จสิ้นการชี้แจง พนักงานแต่ละคนทยอยเข้ารับ “เช็กค่าชดเชย” ซึ่งบริษัทจัดเตรียมไว้ครบถ้วนเป็นเงินรวมกว่า 95 ล้านบาทเศษ โดยแบ่งตามอายุงาน — ผู้ที่ทำงาน 10 ปีขึ้นไปได้รับค่าชดเชย 300 วัน ส่วนผู้ที่ทำงาน 25 ปีขึ้นไปได้รับ 400 วัน พร้อม “ค่าตกใจ” เพิ่มอีก 1 เดือน 3 วัน

หลายคนที่ทำงานมายาวนานกว่า 20–30 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม้จะได้รับเงินชดเชยเต็มจำนวนแต่ก็รู้สึกใจหาย เพราะโรงงานแห่งนี้เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สอง

นางศรีไพร ลามนอก อายุ 49 ปี พนักงานฝ่ายผลิต เปิดเผยว่า ตนทำงานที่โรงงานแห่งนี้มาแล้วกว่า 28 ปี “ตอนเช้ามาก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย อยู่ดีๆ ก็ประกาศเลิกจ้าง บอกว่าขาดทุน ไม่คิดว่าจะถึงวันนี้เร็วขนาดนี้ ตอนนี้ก็คงจะกลับไปอยู่บ้าน ดูแลแม่ก่อน เพราะอายุมากแล้วจะไปสมัครงานที่ไหนก็คงยาก”


ด้าน นางอัญชลี เรืองอุลัย อายุ 49 ปี พนักงานอีกคนที่ทำงานมากว่า 26 ปี กล่าวว่า ได้รับค่าชดเชยประมาณ 1.8 แสนบาท “รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็เข้าใจบริษัท เพราะเศรษฐกิจมันไม่ดีจริงๆ ตอนนี้คงต้องคิดดูว่าจะทำอะไรต่อไปดี เพราะอายุเยอะแล้ว ไปสมัครงานที่ไหนก็ยาก แต่ก็ยังอยากทำงานต่อ ถ้ามีโอกาส”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการรับเช็กเสร็จสิ้น พนักงานหลายคนโผเข้ากอดเพื่อนร่วมงานร่ำไห้ บางรายถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนขึ้นรถบัสสวัสดิการของบริษัทเพื่อกลับบ้าน ซึ่งถือเป็น “เที่ยวสุดท้าย” ของรถที่เคยรับส่งพนักงานมาตลอดหลายสิบปี


แหล่งข่าวในพื้นที่เผยว่า โรงงานแห่งนี้เคยมีออร์เดอร์ผลิตเสื้อผ้าส่งออกไปยังญี่ปุ่นและยุโรป แต่หลังสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจซบเซาอย่างหนัก ทำให้ยอดสั่งซื้อหายไปกว่าครึ่ง แม้ผู้บริหารพยายามปรับโครงสร้างและลดต้นทุนแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถประคับประคองกิจการต่อได้

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าพนักงานโรงงานอื่นในพื้นที่นครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงเริ่มจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะมีกระแสข่าวว่ามีหลายโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้ากำลังประสบปัญหาคล้ายกัน อาจมีการปิดกิจการตามมาอีกหลายแห่ง หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้


เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นสัญญาณชัดเจนของ “พิษเศรษฐกิจถดถอย” ที่เริ่มส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อแรงงานภาคการผลิตในประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนแก่แรงงานกว่า 600 ชีวิตในครั้งนี้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นความเปราะบางของภาคอุตสาหกรรมไทยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ยังไร้แนวโน้มฟื้นตัวในระยะสั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น