อุดรธานี - ตำรวจทลายปาร์ตี้มั่วสุมเสพยา รวบ 8 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์กว่า 4.4 ล้านบาท พบเชื่อมโยงเครือข่ายค้ายานรกฝั่งลาว เผยแก๊งค้ายาใช้วิธีส่งของผ่านจุดนัดวางตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นรูปแบบการลำเลียงยาเสพติดที่มีความซับซ้อนและแนบเนียนมากขึ้น
วันนี้ (22 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการทลายปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 8 คน พร้อมของกลางและทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 4,420,000 บาท
พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงปฏิบัติการครั้งนี้เริ่มจากการตรวจพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีเทา ทะเบียน ณช 4497 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อย่านตลาดไทยศิริ 3 ต.บ้านเลื่อม เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณเที่ยงวัน ภายในรถมีชายต้องสงสัย 2 คน คือ นายคง (นามสมมติ) อายุ 29 ปี และนายขวัญ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบอาวุธปืน 2 กระบอก กระสุน 25 นัด และหัวบุหรี่ไฟฟ้าบรรจุน้ำยาผสมสารเสพติด หรือ “พอตยาเค” จำนวน 4 หัว จึงควบคุมตัวไว้และขยายผลต่อทันที
ด้าน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเข้าทลายปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติดภายในบ้านพักพูลวิลลา ต.เชียงพิณ ในช่วงเวลา 02.30-06.30 น. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 ราย แบ่งเป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน พร้อมของกลาง ได้แก่ ยาเสพติดผสมคอลลาเจน 44 ซอง, พอตยาเค 10 หัว, ยาบ้า 9 เม็ด และไอซ์ 6 กรัม
จากการสืบสวนพบอีกว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายวัยรุ่นที่ติดต่อซื้อยาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว โดยใช้วิธีส่งของผ่านจุดนัดวางตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นรูปแบบการลำเลียงยาเสพติดที่มีความซับซ้อนและแนบเนียนมากขึ้น
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และตำรวจทราบตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจัดซื้อและนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศแล้ว และจะเร่งขยายผลดำเนินการจับกุมเครือข่ายทั้งหมดให้ถึงที่สุด” พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อมโยงกับการกระทำความผิด มูลค่ากว่า 4,420,000 บาท ประกอบด้วย รถยนต์ 3 คัน เงินสด 1,600,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินต่อไป