พิษณุโลก - ‘ท้องฟ้าจำลอง’หลังโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ของดี 1 ใน 5 ของประเทศที่ไม่ควรพลาด มูลค่าก่อสร้างรวม 240 ล้าน เผยเปิดมาแล้ว 2 ปี ยอดคนดูเกือบแสนคน แต่แนวโน้มถดถอย-ขาดงบซื้อลิขสิทธิ์หนังม้วนใหม่ ต้องวนฉายแต่หนังซ้ำ 7 เรื่องเท่านั้น
คณะครูหลายโรงเรียนในแถบภาคเหนือตอนล่าง อาทิ จ.สุโขทัย จ.อุตรดิตถ์ จ.พิจิตร ฯลฯ นิยมนำนักเรียนเดินทางเข้าชมท้องฟ้าจำลองและศึกษาแหล่งเรียนรู้ผ่านนิทรรศการเทคโนโลยีพลังงานและอวกาศ ณ อาคารดาราศาสตร์และอวกาศ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ซึ่งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งชาติ ได้จัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพิษณุโลก สร้าง”ท้องฟ้าจำลอง”ชนิดโดมเอียงเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 เมตร สามารถรองรับให้บริการรอบละ 80 ที่นั่ง ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 175 ล้านบาท
ตั้งอยู่หลังโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม หรือหมู่ 6 ตำบลท่าทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เนื้อที่ 45 ไร่ มีทั้งอาคารนิทรรศการ อาคารภัตตาคารและหอประชุม อาคารสำนักงาน อาคารดาราศาสตร์และอากาศ ถ้ารวมงบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้นตกอยู่ 240 ล้านบาท
ณ ขณะนี้..ที่นี่ถือว่ามีความทันสมัยที่สุดในภาคเหนือ มีเครื่องฉาย 2 ระบบคือระบบ Auto mechanical และระบบดิจิตอล สามารถแสดงภาพได้เสมือนจริงพร้อมจัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ ท้องฟ้าจำลองแก่เด็ก-เยาวชนและประชาชนทั่วไป
นางสาวณัฐภัสสร แดงมณี ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพิษณุโลก กล่าวว่า ท้องฟ้าจำลองพิษณุโลกเปิดให้บริการตั้งแต่ 28 กันยายน 2566 โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสมัยนั้นช่วยผลักดัน และมาเป็นประธานพิธีเปิดท้องฟ้าจำลอง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนมาชม โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป
ที่นี่เปิดให้บริการ วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น. (วันอังคาร - วันศุกร์ จำนวน 4 รอบ) รอบ ได้แก่ รอบ 10.00 น รอบ11.00 น. รอบ13.00 น. และรอบ 14.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 5 รอบ รอบ 10.00 น รอบ 11.00 น. รอบ 13.00 น. รอบ 14.00 น. และรอบ 15.00 น. รอบละ1 ชั่วโมง โดยวันเสาร์อาทิตย์ รอบ 11.00 น. จะเปิดการแสดง 3 มิติ) ปิดทำการในวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
สามารถเข้าชมแบบ Walk-in ได้เลย โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า (สำหรับประชาชนทั่วไป) ค่าเข้าชม 50 บาทต่อที่นั่ง และมีบริการฟรีสำหรับพระภิกษุ สามเณร ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) และเด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 3 ปี).
นับแต่เปิดบริการมา มียอดผู้เข้าชมในปีแรก (ตามปีงบประมาณ 2567) จำนวน 50,000 คน คิดเป็นรายได้เฉลี่ย 2,200,000 บาท ส่วนปีล่าสุด ปีงบประมาณ 2568 มีผู้เข้าชมลดลงเหลือ 36,000 คน คิดเป็นรายได้เฉลี่ย 1,500,000 บาท
ทั้งนี้คาดว่า ยอดผู้เข้าชมที่ลำลง เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับพฤติกรรมผู้เข้าชม หากเข้าชมแล้ว จะไม่ค่อยเดินทางมาซ้ำ รวมทั้งอาจเป็นเพราะต้องฉายภาพยนตร์ซ้ำ 7 เรื่องในตลอดระยะเวลา 2 ปี เพราะถ้าจะนำหนังใหม่เข้ามาจะต้องซื้อลิขสิทธิ์ 2-3 ล้านบาทต่อเรื่อง(ขึ้นอยู่กับความยาว)
ซึ่งใครจะเป็นคนซื้อลิขสิทธิ์นั้น ก็ยังเป็นปัญหา!? เพราะต้องขึ้นอยู่คนในกระทรวงศึกษาธิการบริหารจัดการ ส่วนการแลกเปลี่ยนหนังระหว่างท้องฟ้าจำลองด้วยกัน 5 แห่งทั่วประเทศ คือ เอกมัย(กทม.), รังสิต, ร้อยเอ็ด, พิษณุโลก, นราธิวาส อาจไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระบบฉายไม่เหมือนกันอีก