xs
xsm
sm
md
lg

VMES ม.อัสสัมชัญ ยกมาตรฐานการศึกษาสู่ศูนย์กลางวิศวกรรมและนวัตกรรมระดับโลกของไทย ก้าวนำด้วยยานยนต์พลังงานใหม่-อากาศยาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (VMES) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตรอุตสาหกรรมระดับโลก ยกระดับมาตรฐานการศึกษาสู่สากล มุ่งเป็นศูนย์กลางวิศวกรรมและนวัตกรรมระดับโลกของไทยก้าวนำด้วยยานยนต์พลังงานใหม่ อากาศยาน มหานครดิจิทัล และผู้ประกอบการเทคโนโลยี


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณรงค์ อภิรัตน์สกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (VMES)
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University of Thailand – AU) ยกระดับมาตรฐานการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ของไทยสู่ระดับสากล ผ่าน คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (Vincent Mary School of Engineering, Science and Technology – VMES) ที่บูรณาการ “พลังงานใหม่–เทคโนโลยี–ผู้ประกอบการ–วิทยาศาสตร์ข้อมูล” เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ พร้อมเครือข่ายพันธมิตรอุตสาหกรรมระดับโลก และศูนย์ปฏิบัติการมาตรฐานเดียวกับภาคการผลิตจริง เป้าหมายชัดเจน: สร้างบัณฑิตที่ “ทำได้จริง” ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวสู่ตลาดงานโลก

โดยมาตรฐานนี้เหนือกว่าด้วยโครงสร้างนิเวศนวัตกรรมครบวงจร โดยหัวใจของ VMES คือ Gabriel Mary Research & Learning Center for New Energy Vehicle Technology ศูนย์วิจัยและการเรียนรู้ด้านยานยนต์พลังงานใหม่ที่เกิดจากการลงทุนและความร่วมมือเชิงลึกระหว่าง AU – SAIC Motor – MG Motor ซึ่งนักศึกษาจะสามารถเข้าถึง แพลตฟอร์ม วิจัย–ทดสอบ–ต้นแบบ ที่เชื่อมกับสายการผลิตจริง รวมทั้งฝึกงานและทำโปรเจ็กต์ร่วมกับทีมวิศวกรผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แบตเตอรี่ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ยานยนต์อัจฉริยะ เป็น “ทางลัด” สู่อาชีพยุค EV ที่มหาวิทยาลัยอื่นในประเทศ ยังไปไม่ถึง พร้อมกันนี้ VMES ยังเชื่อมต่อกับพันธมิตรอุตสาหกรรมชั้นนำอย่าง SMC (Thailand) ในด้าน Automation 4.0, IIoT, AGV และโรงงานอัจฉริยะ เพื่อให้นักศึกษา “สัมผัสเทคโนโลยีของจริง” ตั้งแต่ปีแรกของการเรียน


ขณะที่หลักสูตรวิศวกรรมการบิน (Bachelor of Engineering in Aeronautics) ของ VMES ได้ทำความร่วมมือกับ บ. Wefly International Academy และผ่านการรับรองมาตรฐานจาก European Union Aviation Safety Agency (EASA) ภายใต้กรอบ Part-147 เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถสอบ Part-147 และรับใบอนุญาตการบินสากลได้ภายในการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และผ่านการฝึกงานในสายซ่อมบำรุงตามเงื่อนไขของ EASA โดยหลักสูตรนี้ครอบคลุม 2 สาขาสำคัญให้เลือกศึกษา ได้แก่ CPL – Commercial Pilot License (วิชาเอกนักบินพาณิชย์ตรี) และAME – Aircraft Maintenance Engineering (วิชาเอกซ่อมบำรุงอากาศยาน) ซึ่งผู้เรียนสามารถเข้าสอบใบอนุญาตตามมาตรฐานได้ครบถ้วนภายในมหาวิทยาลัยเมื่อผ่านเกณฑ์ ก้าวสู่สายการบินหรือศูนย์ซ่อมบำรุงระดับนานาชาติได้รวดเร็ว ย่นระยะทางสู่การเป็นบุคลากรมืออาชีพด้านอากาศยานอย่างแท้จริง

อีกทั้งเป็นหลักสูตรครอบคลุมอนาคตจริง (Undergraduate & Graduate) ทั้ง Aeronautics Engineering — CPL (CAAT) / AME (EASA Part-147), Electrical & Computer Engineering (EE/CE) — โครงสร้างพื้นฐานพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ สมองกลฝังตัว ระบบอัตโนมัติ (หลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้าได้รับการรับรองโดย Council of Engineers Thailand) (รองรับต่อยอด ปริญญาโท–เอก), Mechatronics Engineering & Artificial Intelligence (MCE AI) — หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ ระบบควบคุมอัจฉริยะ (รองรับต่อยอด ปริญญาโท–เอก),Computer Science (CS) — วิทยาการคอมพิวเตอร์, AI, Data Science, Cybersecurity (รองรับต่อยอด ปริญญาโท–เอก),Applied Informatics (IT) — เทคโนโลยีสารสนเทศประยุกต์ ระบบองค์กร ซอฟต์แวร์ธุรกิจ (รองรับต่อยอด ปริญญาโท–เอก),New Energy Automotive Engineering — ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน การบำรุงรักษา EV และซัพพลายเชนยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งทุกหลักสูตรถูกออกแบบด้วยกรอบสมรรถนะวิชาชีพ (competency-based) บูรณาการโครงงานจริง (capstone/industry project) และ Work-Integrated Learning เพื่อให้ทุกหน่วยกิต “แปลงเป็นผลงานได้”


ตลอดจนเป็นเครือข่ายสากล เรียนที่ไทย คุณภาพเทียบชั้นนานาชาติ ด้วย Double Degree 2+2 กับ University of Birmingham (UK) ในกลุ่ม Mechatronics และ Electrical/Electronics Engineering ได้ทั้งประสบการณ์ห้องแล็บสหราชอาณาจักรและเครือข่ายอาชีพระดับนานาชาติ กับพันธมิตรภาคอุตสาหกรรม: SAIC Motor, MG Motor, SMC (Thailand) และพาร์ทเนอร์เทคโนโลยีอีกหลากหลาย ทำให้นักศึกษา ทำงานจริง กับเทคโนโลยี ที่อุตสาหกรรมต้องใช้จริง ตลอดจนยังมีจุดแข็งที่ไร้ใครเทียบ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรระดับโลก โดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้ลงนาม ความร่วมมือเชิงวิชาการสากล กับ Tsinghua และ Peking University อย่างเป็นทางการ เพื่อผลักดันการศึกษาและวิจัยเชิงลึก โดยมีรายละเอียดสำคัญ คือ ความร่วมมือกับTsinghua University (China) ในการพัฒนาหลักสูตรและผลิตบัณฑิตแบบร่วม (Joint Program) ซึ่งทั้งสองมหาวิทยาลัยจับมือกันพัฒนาหลักสูตรและผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพระดับสากล,แลกเปลี่ยนคณาจารย์และวิจัยเชิงลึก,การแลกเปลี่ยนบุคลากร,การจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วม รวมทั้งการทำวิจัยขั้นสูงในสาขาโลจิสติกส์อัจฉริยะ, วิทยาการข้อมูล,ปัญญาประดิษฐ์,วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและระบบเมืองอัจฉริยะ ส่วนความร่วมมือกับ Peking University (China) เป็นในเรื่องโฟกัสเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งแม้ Peking University มีชื่อเสียงด้านศิลปะ แต่ความร่วมมือกับ AU ได้ขยายสู่ เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมสังคม โดยมุ่งเน้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ,เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการวิจัยและการพัฒนาที่ยั่งยืน และการสร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงการวิจัยกับอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย


ทั้งนี้ภราดา ดร. ศิริชัย ฟอนซีกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุว่า VMES คือหัวใจของวิสัยทัศน์ใหม่ ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ผสานเทคโนโลยี พลังงานใหม่ และจิตวิญญาณผู้ประกอบการ เพื่อสร้างบัณฑิตที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ VMES @ Assumption University นั้น เราไม่ใช่แค่ “สอนเทคโนโลยี” แต่เราสร้าง “ผู้นำเทคโนโลยี” ให้พร้อมวิ่งนำหน้าบนเวทีนานาชาติตั้งแต่วันแรกที่จบการศึกษา

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณรงค์ อภิรัตน์สกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (VMES) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลงทุนในศูนย์วิจัยและห้องปฏิบัติการที่เชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมจริง เพื่อให้ทุกวิชามี ‘ประสบการณ์จริง’ ให้นักศึกษาลงมือทำ พร้อมจบการศึกษาด้วยผลงานและทักษะที่รับรองได้ ดังนั้น VMES จึงถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่“ดีกว่า” ด้วยปัจจัย ได้แก่ 1. โดดเด่นด้วยศูนย์วิจัยยานยนต์พลังงานใหม่ที่ร่วมลงทุนกับผู้ผลิตระดับโลก – Gabriel Mary Research & Learning Center เชื่อมห้องแล็บกับสายการผลิตจริง,2. อากาศยานมาตรฐานยุโรป – EASA Part-147 ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ร่วมมือกับบ. WeFly International Academy ยกระดับความพร้อมสู่สายการบินสากล,3. หลักสูตรครบทุกมิติ + เส้นทางบัณฑิตศึกษาในบ้าน – จากปริญญาตรีสู่โท–เอก โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่,4. อุตสาหกรรมอยู่ในห้องเรียน – โครงงานที่มาจากโจทย์จริง ฝึกงานจริง เครือข่ายอาชีพจริง และ 5. ผู้ประกอบการเทคโนโลยี – สนามฝึกสร้างสตาร์ทอัปและโปรเจ็กต์เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปีต้นๆ


นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ระดับโรงงานอัจฉริยะและสนามบินย่อม ประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และทดสอบชาร์จ,ห้องปฏิบัติการการบิน เครื่องมือซ่อมบำรุงรักษา และสภาพแวดล้อมปฏิบัติการตามมาตรฐาน EASA,Automation/Robotics Lab, Power Electronics Lab, IIoT Testbed
และ Co-creation Space สำหรับสตาร์ทอัปวิศวกรรมและโครงงานข้ามสาขา นำไปสู่เส้นทางอาชีพ ที่เร่งสปีดสู่อนาคต ทั้ง EV/NEV Engineer, Battery/Charging Engineer, EV Systems Integration,Avionics Engineer, Aircraft Maintenance (EASA), Flight Operations,Automation/Robotics Engineer, Embedded/Control Systems,Data/AI Engineer, Cybersecurity, Cloud/Enterprise IT และTech Entrepreneur & Venture Builder ซึ่งด้วยระบบอาจารย์พี่เลี้ยง (faculty mentor) ผนวกกับโครงข่ายศิษย์เก่าในอุตสาหกรรม ทำให้การเปลี่ยนผ่านจาก “นักศึกษา” เป็น “มืออาชีพ” เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

สำหรับผู้สนใจ ขณะนี้เปิดรับสมัครนักศึกษาแล้ว ทั้งปริญญาตรี,ปริญญาโท และปริญญาเอก สามารถปรึกษาเส้นทางการเรียนและอาชีพ อัปสกิล–รีสกิลสำหรับผู้จบแล้ว และสอบถามทุนการศึกษาได้ที่ โทรศัพท์ 02-783-2222 ต่อ 2312,อีเมล vmes@au.edu,เว็บไซต์ https://vmes.au.edu หรือ Facebook: https://www.facebook.com/auvmes






กำลังโหลดความคิดเห็น