เชียงใหม่-แม่ทัพภาคที่ 3 นำแถลงผลจับกุมยาบ้า 4 ล้านเม็ด ในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเร่งติดตามผู้ต้องสงสัยทิ้งรถหลบหนี ย้ำทุกหน่วยงานบูรณาการกำลังเข้มงวดกวดขันสกัดกั้นยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
เย็นวันนี้(17ต.ค.68)ที่หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลโทวรเทพ บุญญะ แม่ทัพภาคที่ 3 ร่วมกับนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่
โดยเมื่อวันที่ 16 ต.ค.68 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง ที่ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านห้วยหก ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย หมายทะเบียน ยน 727 เชียงใหม่ จึงขอเข้าตรวจสอบ แต่คนขับรถคันได้ทิ้งรถหลบหนี จากการตรวจค้นพบกระสอบยาบ้า 18 กระสอบ ตรวจยึดยาบ้าได้รวม 4 ล้านเม็ด
ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ มีการปราบปรามตรวจยึดยาบ้าได้รวมกว่า 14.8 ล้านเม็ด ไอซ์ 570 กิโลกรัม และเฮโรอีน 1 กิโลกรัม และมีการปะทะขบวนการค้ายาเสพติดแล้ว 4 ครั้ง พร้อมระบุว่าสถานการณ์ยาเสพติดเดือนตุลาคมนี้ยังคงรุนแรง มีการจับกุมมากในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
โดยขบวนการค้ายาเสพติดได้ปรับวิธีลำเลียงด้วยการใช้รถยนต์ขนจากแนวชายแดนมาพักในพื้นที่ชั้นใน เช่น อำเภอเมืองและเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนส่งต่อไปยังภาคเหนือ ตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ โดยใช้วิธีอำพรางซุกซ่อนในเครื่องอุปโภคบริโภค เช่นปลากระป๋อง หรือลำเลียงยาเสพติดผ่านการขนส่งพัสดุภัณฑ์ และรถโดยสารประจำทาง
ขณะเดียวกันคาดว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูท่องเที่ยว ซึ่งย้ำให้ทุกหน่วยเสริมการข่าวเชิงรุกเพื่อนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด และเข้มงวดสกัดกั้นตามแนวชายแดนทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางท่องเที่ยว โดยในช่วงฤดูหนาวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น
สำหรับหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ อยู่ภายใต้การกำกับของแม่ทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนภาคเหนือรวม 21 อำเภอ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน และตาก มีภารกิจหลักในการสกัดกั้น ยับยั้ง และปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมสืบสวนขยายผลและสร้างเครือข่ายชุมชนร่วมเฝ้าระวังยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน
โดยในโอกาสแถลงผลการสกัดกั้นครั้งนี้ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ได้มอบรถจักรยานยนต์ของกลาง ที่คดีใกล้สิ้นสุด ให้ทหารไปใช้ประโยชน์ในราชการ ออกลาดตระเวนสกัดก้ั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนจำนวน 8 คันด้วย