เพชรบูรณ์/พิษณุโลก - นักท่องเที่ยวสายมูฯแห่พิสูจน์ “พญางูใหญ่-นาคราช” ริมฝั่งน้ำเข็ก..หัวงูสีดำทะมึนลักษณะหินซันแครก-ลำตัวเหมือนหินซ้อน-หางเกยริมน้ำฝั่งเขาค้อ จนรถราจอดริมถนนรูท 12 พรึบทั้ง 2 ฝั่ง เชื่อยิ่งใกล้วันหวยออกยิ่งแน่น
วันนี้(14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวสายมู ซึ่งเชื่อและสนใจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับ แห่นำเครื่องเซ่นไหว้เดินทางไปขอพรหินขนาดใหญ่ บริเวณริมลำน้ำเข็ก พื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เขตรอยต่อจังหวัดเพชรบูรณ์กับจังหวัดพิษณุโลก ที่มีลักษณะคล้ายหินงูยักษ์ที่จังหวัดบึงกาฬ
ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เขียนป้ายตั้งชื่อว่า “นางพญางูใหญ่” หรือ “พญาเข็กหิรัญธาตุนาคราชราชา วังน้ำเข็ก” พร้อมคำบูชาระบุภาพหินงูใหญ่ ก้อนสีดำทะมึน ตามภาพถ่ายเมื่อ 28 ก.ย. 68 เป็นก้อนหิน ชนิด ซันแครก หรือ หมอนหินซ้อน จำนวน 3 ชิ้น นอนเรียงตัวเป็น หัว ลำตัวและหาง บริเวณริมลำน้ำเข็ก ฝั่งอำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์
คนที่เดินทางมาต้องจอดรถบนสะพาน ถนนสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก โดยเฉพาะห้วงหยุดยาวที่ผ่านมา มีรถราของนักท่องเที่ยวจอดทั้ง 2 ฝั่งถนนเป็นจำนวนมาก และมีการจอดซ้อนคันกันเป็นระยะทางยาว ก่อนเดินเท้าไปตามชายป่าลำน้ำเข็กประมาณ 1.2-1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ15-20 นาที ก็พบหินคล้ายหัวงูขนาดใหญ่ ลำตัวนั้นอยู่ตอนกลาง ส่วนหางหินทอดยาวริมลำธาร
แน่นอนว่าบรรดานักท่องเที่ยวสายมูฯ ไม่พลาดที่จะนำธูป บายศรี พวงมาลัย ไปเซ่นไหว้ด้วย ซึ่งทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ตลอดริมทางโดยเฉพาะไข่ต้มที่มีความเชื่อว่า พญางูใหญ่ชอบ ก็มีวางจำหน่ายเพียบตามเส้นทางเท้า พร้อมๆกับพ่อค้าแผงหวยจำนวนมาก ยืนขายลอตเตอรี่ราคามาตรฐานกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางกลิ่นธูปและควันเทียน
นายป้อม บอกว่า ตนเป็นคนขายลอตเตอรี่และทำงานจิตอาสาคือ เก็บขยะเศษขวดและพลาสติกต่างๆ หลังผู้คนหลั่งไหลเดินทางมาสักการะพญางูใหญ่ ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต้องเดินเข้าไปเท่านั้น โดยตลอดทางจะมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายหวยไม่ต่ำกว่า 20 ราย รอจำหน่ายขายลอตเตอรี่ ราคาปกติคู่ละ 100 บาท ยิ่งใกล้วันหวยก็น่าจะคึกคักเป็นพิเศษ
นอกจากนั้นยังพบว่ามีกลุ่มพระภิกษุและคณะศิษย์จำนวนหนึ่งซึ่งทราบต่อมาว่ามาจากต่างจังหวัดได้เดินทางมาเตรียมที่จะปักกรดอยู่บริเวณดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายเพราะในบริเวณนี้ยังมีสัตว์ป่าออกหากินในช่วงกลางคืนอยู่เป็นประจำ
ด้านนายบุณยภู ชูวัฒนา ปลัดอาวุโสอำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมคณะฝ่ายปกครองในพื้นที่ เปิดเผยว่าขณะนี้มีนักท่องเที่ยวและผู้ที่ศรัทธาเข้ามาจำนวนมาก ฝ่ายปกครอง อ.นครไทย และเจ้าหน้าที่อุทยานทุ่งแสลงหลวง จึงต้องหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากมีพื้นที่คาบเกี่ยวกัน ในการจัดการดูแลพื้นที่ให้มีความปลอดภัย รวมทั้งร้องขอให้ผู้ที่นำบายศรีและของเซ่นไหว้ หากดำเนินการเสร็จแล้วให้นำกลับไปด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดมลภาวะและอาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าก็เป็นได้