สระแก้ว- "บิ๊กต่าย" ลงพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า รวมทั้งมอบสิ่งของเพื่อการดำรงชีพ ยันพร้อมปฎิบัติงานตามคำสั่งทหารภายใต้กฎอัยการศึก-บังคับใช้กฎหมายเต็มที่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 13 ต.ค.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำคณะลงพื้นที่จุดตรวจที่ 40 บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่แนวหน้า รวมทั้งมอบสิ่งของเพื่อการดำรงชีพ
พร้อมบอกว่า เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ ทุกนายมีขวัญและกำลังใจที่ดีมากซึ่งในส่วนของผู้บังคับบัญชา ที่ได้พูดคุยและปรึกษากันยังเตรียมที่จะจัดอุปกรณ์ในการทำงานที่มีประสิทธิภาพเข้ามาให้กำลังพล เพื่อใหปฎิบัติหน้าที่ภายใต้มาตรการกฎอัยการศึก ได้อย่างเต็มที่
และยังเผยถึงสภาพด้านในพื้นที่ศูนย์อพยพบ้านหนองจาน ที่ในอดีตมีบ้านเรือนของชาวเขมรจำนวนห้าหลัง ว่าขณะนี้ผู้อาศัยได้ย้ายออกไปหมดแล้ว แต่ในส่วนของพื้นที่ลึกเข้าไปด้านในที่มีลักษณะเป็นชุมชนหนาแน่น เจ้าหน้าที่ได้กั้นแนวไว้และยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ
" ทุกขั้นตอนทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจควบคุมฝูงชนต้องทำงานตามขั้นตอนปฏิบัติ และได้มีการถอดบทเรียนจากการประทะกับชาวเขมรครั้งที่ผ่านมาแล้ว และเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามก็มีการพัฒนายุทธวิธีที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเช่นกัน จึงทำให้เราต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างสูงสุดภายใต้เงื่อนไขของยุทธการทางทหาร ที่ตำรวจพร้อมปฎิบัติตามภายใต้กฎอัยการศึก เพื่อรักษาอธิปไตยที่จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบ"
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังเผยอีกว่าตำรวจชุดควบคุมฝูงชน มีความชำนาญในการระงับ ยับยั้งเหตุการณ์ ส่วนตำรวจในพื้นที่ที่อยู่แล้วชายแดน จะยังคงทำหน้าที่ในการพิทักษ์แนวหลังกรณีเกิดการอพยพเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ส่วนการจับแรงงานเขมรที่ลักลอบข้ามแดนเข้ามาในประเทศไทยช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาของเจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 รวมจำนวน 37 คนนั้นเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องที่พัฒนารูปแบบในการลักลอบข้ามแดนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก็ได้พัฒนายุทธวิธีในการกดดันจับกุม
โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีโดรนตรวจจับความร้อน เข้ามาปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการปฏิบัติงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
" แรงงานทั้ง 37 คนเมื่อเห็นโดรนติดตามก็จะจนมุมไม่สามารถหนีได้ ซึ่งแรงงานทั้งหมดยอมรับว่า หลังจากที่เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อหลายเดือนก่อนเพราะเชื่อว่าจะมีงานทำตามที่รัฐบาลกัมพูชาบอก แต่กลับไม่มีงานทำตามคำบอกเล่า จึงคิดจะกลับมาหางานทำในไทยเนื่องจากครอบครัวกำลังขาดแคลนอาหาร จึงพยายามดิ้นรนลักลอบเดินทางข้ามชายแดนเข้ามา"
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวแรงงานเขมรทั้งหมดส่งให้ตำรวจภูธร สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายและจะผลักดันกลับประเทศต่อไป


