เพชรบุรี - รองผู้ว่าฯ เพชรบุรี นำหน่วยงานบูรณาการทุกภาคส่วน เสริมแผนรับมือภัยน้ำ – ชลประทานที่ 14 ระดมเครื่องจักร 52 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 29 เครื่อง ครอบคลุม 20 จุดเสี่ยงทั่วจังหวัด
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานชลประทานที่ 14 เข้าร่วมกิจกรรม “Kick Off การเตรียมความพร้อมเครื่องจักร–เครื่องมือ รับสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดเพชรบุรี ประจำปี 2568” โดยมี นายภัคพัส ส่งวัฒนายุทธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานในพิธี
ภายในกิจกรรม มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร ผู้นำชุมชน ประชาชน และจิตอาสา เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงพลังความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำอย่างบูรณาการ
นายนรเศรฐ สองทอง ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 14 พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร อาทิ นายไพโรจน์ เตชะเจริญสุขจีระ รองผู้อำนวยการฯ นายอุดร พรมปา ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา นายเจริญ ศรีเชย ผู้อำนวยการส่วนเครื่องจักรกล นายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี และ นายสุชาติ กาญจนวิลัย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้านการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นตามนโยบายและความห่วงใยของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยสูงสุด พร้อมขับเคลื่อนแนวนโยบาย “RID UNITED” ของ นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน ที่มุ่งบูรณาการความร่วมมือทุกระดับให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งด้านการบริหารจัดการน้ำ การใช้เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 14 ได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยปี 2568 ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดเพชรบุรีรวม 20 จุด ได้แก่ อำเภอหนองหญ้าปล้อง 2 จุด อำเภอท่ายาง 10 จุด อำเภอชะอำ 2 จุด อำเภอเมืองเพชรบุรี 3 จุด อำเภอบ้านแหลม 3 จุด
พร้อมเตรียมติดตั้ง เครื่องสูบน้ำจำนวน 52 เครื่อง แบ่งเป็นติดตั้งก่อนน้ำมา 5 เครื่อง รอการติดตั้ง 18 เครื่อง และติดตั้งเพิ่มเติมขณะเกิดเหตุ 26 เครื่อง รวมทั้ง เครื่องผลักดันน้ำ 29 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำจากพื้นที่ลุ่มต่ำ ลดความเสียหายและผลกระทบต่อประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการแผนการสื่อสารความเสี่ยงเชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้และเตรียมความพร้อมให้ประชาชนสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัย โดยจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
จากการคาดหมายของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เดือนตุลาคมเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนสู่ฤดูหนาว โดยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้และภาคกลางตอนล่าง ซึ่งอาจส่งผลให้จังหวัดเพชรบุรีมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ
กิจกรรม “Kick Off” ครั้งนี้จึงเป็นการยืนยันความพร้อมของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น ทหาร และประชาชน ในการรับมือภัยน้ำอย่างมีระบบ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นว่าจังหวัดเพชรบุรีมีความพร้อมสูงสุดในการเผชิญทุกสถานการณ์อุทกภัย