สระแก้ว- ไหนว่ามีงานให้ทำ ชาวเขมรยังพยายามลอบเข้าไทยต่อเนื่อง ล่าสุดถึงขั้นพาเด็กเล็กขี่หลังว่ายน้ำข้ามคลองพรมโหด อรัญประเทศ แต่เจอเจ้าหน้าที่จนต้องว่ายน้ำหนีกลับ ไม่เว้นแนวรั้วลวดหนามโคกสะแบง ที่มีร่องรอยการพักคอยจังหวะลอบเข้าไทย
จากกรณีที่หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ รายงานว่าพบกลุ่มบุคคลชาวกัมพูชา ประมาณ 4 คน ประกอบด้วยชาย-หญิง และเด็กเล็ก พยายามลักลอบว่ายน้ำข้ามคลองจากฝั่งกัมพูชาเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณคลองบ้านโคกสะแบง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ ( 7 ต.ค.) นั้น
วันนี้ ( 8ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้รับแจ้งจากเจ้าที่ว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวพยายามที่จะให้เด็กเล็กขี่บนหลังขณะพากันว่ายน้ำข้ามคลองพรมโหด ทั้งหมดพยายามเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพื่อหลบสายตาของเจ้าหน้าที่ไทยที่ลาดตระเวน ซึ่งระหว่างที่กลุ่มคนดังกล่าวได้ซุ่มพักในโพรงไม้ริมคลอง เจ้าหน้าที่ไทยพบเห็นและตะโกนเรียกให้ขึ้นจากน้ำ พร้อมเตือนให้ “ระวังเด็กจมน้ำ”
และยังได้ตะโกนสอบถามว่าต้องการข้ามเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ตอบโต้ และตัดสินใจว่ายน้ำกลับไปยัวฝั่งกัมพูชา ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ยังระบุอีกว่าแม้จะพบเห็นเหตุการณ์ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันตัวตนของชาวเขมรอย่างเป็นทางการได้
และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหลังวัดโคกสะแบง ซึ่งเป็นแนวรั้วลวดหนามอีกครั้ง ยังพบว่ามีร่องรอยของชาวเขมรที่พยายามจะลักลอบข้ามแดนมายังฝั่งไทย สังเกตุได้จากขวดน้ำเปล่าและสิ่งของที่ถูกวางทิ้งไว้ริมคลองพรมโหด ที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดพักรอของชาวเขมรเพื่อรอช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่เผลอจึงจะแอบว่ายน้ำข้ามคลอง
เจ้าหน้าที่ยังระบุอึกว่า การลักลอบข้ามแดนในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องอันตราย โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากคลองมีน้ำไหลแรงและไม่มีมาตรการป้องกันความปลอดภัยใด ๆ
ขณะเดียวกันหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน และตรวจสอบแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำซ้อน
ทั้งนี้ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่อรัญประเทศ ถือเป็นจุดเสี่ยงที่มีการลักลอบเข้า-ออกประเทศอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง จึงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตือนประชาชนไม่เข้าใกล้จุดเสี่ยงดังกล่าว