สมุทรสงคราม - รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจโรงเรียนศรัทธาสมุทร หลังอาคารเรียนพังเสียหายหนักจากเหตุแผ่นดินไหว นักเรียนกว่า 2 พันคนขาดห้องเรียน สั่งเร่งจัดทำงบ 81 ล้านบาทสร้างอาคารใหม่ พร้อมเสนอใช้ “บ้านน็อกดาวน์” รองรับการเรียนชั่วคราว
วันนี้( 7 ต.ค.) ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของอาคารเรียน ที่โรงเรียนศรัทธาสมุทร ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงต่ออาคารเรียนหลักจนไม่สามารถใช้งานได้
โดยมี นายชยชัย แสงอินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร–สมุทรสงคราม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และคณะผู้บริหารโรงเรียน ร่วมให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลความเสียหาย
จากการตรวจสอบพบว่า อาคารเรียนหลัก 2 หลัง ได้แก่ อาคารเรียนแบบ 424 จำนวน 24 ห้องเรียน และ อาคารเรียนแบบ 318 จำนวน 18 ห้องเรียน ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2519 ได้รับความเสียหายหนัก โครงสร้างแตกร้าว ผนังพังถล่มหลายจุด สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสงครามได้เข้าประเมินและออกคำสั่ง “ห้ามใช้งานอาคาร” พร้อมเสนอให้รื้อถอนและก่อสร้างใหม่ทั้งหมด
ผลกระทบดังกล่าวทำให้ นักเรียนกว่า 2,224 คน ต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนห้องเรียน ทางโรงเรียนจึงจัดทำห้องเรียนชั่วคราวใต้ถุนอาคาร 5 จำนวน 4 ห้อง ภายในอาคารโดมแดงอีก 6 ห้อง และดัดแปลงอาคารโรงฝึกงาน ศูนย์กีฬา และห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหมด 23 ห้องเรียน แต่ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนทั้งหมด โรงเรียนจึงได้จัด ทำแผนของบประมาณจากรัฐบาลจำนวน 81 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนใหม่สูง 6 ชั้น จำนวน 40 ห้องเรียน เพื่อทดแทนสิ่งที่สูญเสียไป
ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เร่งจัดทำข้อมูลเสนอของบกลางผ่านสำนักงบประมาณ และเสนอผ่าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างเร่งด่วน
รมว.ศึกษาฯ ยังระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการเตรียมผลักดันโครงการดังกล่าวเข้าสู่ระบบงบประมาณผูกพันประจำปี 2569–2570 เพื่อครอบคลุมทั้งโรงเรียนศรัทธาสมุทรและสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอื่น ๆ ในพื้นที่ พร้อมสั่งให้ สพฐ. สำรวจบ้านพักครูทั่วจังหวัดที่มีสภาพทรุดโทรม เพื่อนำเสนอของบประมาณปรับปรุงในปีเดียวกัน
สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ได้เสนอให้ใช้ งบเหลือจ่ายปี 2569 จัดซื้อ “บ้านน็อกดาวน์” ราคาหลังละประมาณ 500,000 บาท ภายในแบ่งเป็นห้องเรียน 2 ห้อง โดยโรงเรียนเสนอความต้องการจำนวน 15 หลัง เพื่อรองรับนักเรียนในระหว่างรอการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรแล้วเสร็จ
กระทรวงศึกษาธิการยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้นักเรียนต้องขาดแคลนห้องเรียน และได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันให้โครงการฟื้นฟูโรงเรียนศรัทธาสมุทรได้รับการอนุมัติงบประมาณภายในปีงบประมาณ 2569 อย่างเร่งด่วน