กาญจนบุรี - “สุชาติ” รมว.ทรัพยากรฯ สั่งกรมอุทยานฯ เอาผิดเต็มข้อเจ้าของสิงโตที่หลุดจากกรงทำร้ายเด็กชายวัย 11 ปีที่กาญจนบุรี ยึดสิงโตส่งไปเลี้ยงที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี พร้อมเรียกเก็บค่าเลี้ยงดูตลอดชีวิต ชี้ต้องเป็น “บทเรียน” ให้ผู้เลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองทุกคนตระหนักถึงความรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี สิงโตหลุดจากกรงภายในบ้านในพื้นที่หมู่ 8 บ้านรางขาม ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ก่อนพุ่งเข้าทำร้าย เด็กชายอาทิตย์ อายุ 11 ปี และชายวัย 43 ปี ได้รับบาดเจ็บ เมื่อค่ำวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สร้างความแตกตื่นไปทั่วหมู่บ้าน ล่าสุดเรื่องนี้สร้างแรงกระเพื่อมถึงระดับนโยบาย เมื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีคำสั่งให้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าของสิงโตโดยเด็ดขาด
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีสุชาติได้รับรายงานเหตุทันทีหลังเกิดเหตุ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบพร้อมนำตัวเจ้าของสิงโตมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 15 ฐาน “ปล่อยสัตว์ป่าคุ้มครองจากการดูแลให้เป็นอิสระหรือหลุดพ้นจากการควบคุม” มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ นายสุชาติยังได้สั่งให้ ยึดสิงโตตัวดังกล่าวเพื่อนำไปดูแลในสถานที่ที่เหมาะสม โดยได้มอบหมายให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เตรียมพื้นที่รับเลี้ยงเป็นการถาวร พร้อมให้เจ้าของสิงโตรายนี้ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูตลอดชีวิตของสัตว์ เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อทางราชการ
“เหตุการณ์นี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่จะต้องนำมาบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองตระหนักว่า การครอบครองสัตว์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงามหรือความชอบส่วนตัว แต่ต้องมีความรับผิดชอบสูงสุด เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น” นายอรรถพลกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าของสิงโตคือ นายปริญญา ภาคภูมิ อายุ 32 ปี เจ้าของเพจ “Parinya Parkpoom (บลูลี่ กาญจนบุรี)” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในโลกออนไลน์ ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยมักเผยแพร่คลิปการเลี้ยงสัตว์แปลก รวมถึงสิงโตตัวที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ สภ.บ่อพลอย ได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมประสานกรมอุทยานฯ ตรวจสอบการครอบครองสัตว์ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ด้านกรมอุทยานฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าคุ้มครอง และได้เตือนประชาชนที่เลี้ยงสัตว์ดุร้ายทุกประเภทว่า สัตว์เหล่านี้ล้วนมีสัญชาตญาณของความดุร้าย หากเกิดเหตุทำร้ายผู้อื่น เจ้าของต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้