ชัยนาท - กรมชลประทานออกประกาศฉบับที่ 8 เตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาเฝ้าระวังน้ำท่วม หลังปริมาณน้ำเหนือเพิ่มต่อเนื่อง เร่งปรับระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาที คาดพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำหลายจุดระดับน้ำสูงขึ้น 10–40 ซม.
วันนี้ (3 ต.ค. 2568) นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าช่วงวันที่ 1–9 ตุลาคม 2568 ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ จะอยู่ในเกณฑ์ 2,700–2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาอีก 180 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น แม้กรมชลประทานจะใช้พื้นที่เหนือเขื่อนชะลอน้ำและตัดยอดน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกนาปีตอนล่างยังมีฝนตกชุก จึงจำเป็นต้องแบ่งน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานจึงต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10–40 เซนติเมตร โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง อาทิ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ต.โพนางดำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท และ ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด (3 ต.ค.) ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,770 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 57 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำรวมจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังที่ จ.ชัยนาท มี 2,852 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 116 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานส่งน้ำเข้าระบบชลประทาน แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำน้อย รวม 452 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นอีก 23 เซนติเมตร อยู่ที่ 15.70 เมตร (รทก.)