xs
xsm
sm
md
lg

สาวอยุธยา วอนรัฐเลิกมองบางบาลเป็นแค่พื้นที่รับน้ำ ที่ต้องเสียสละทุกปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - สาวอยุธยาสุดช้ำ น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วมยามดึก กระจกแตกเสียหายยับ ข้าวของจมน้ำ วอนรัฐเลิกมองบางบาลเป็นแค่พื้นที่รับน้ำ ที่ต้องเสียสละทุกปี

วันนี้( 1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ายังคงวิกฤตและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลบ้านกุ่ม พบว่ามีหลายครัวเรือนถูกน้ำหลากเข้าท่วมกลางดึกจนทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก

หญิงเจ้าของบ้านรายหนึ่งเล่าว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา จู่ ๆ น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทะลักเข้าบ้านอย่างรุนแรง ทำให้แนวกั้นน้ำที่สร้างไว้พังลงอย่างรวดเร็ว น้ำไหลเข้าบ้านด้วยความแรงจนประตูกระจกและหน้าต่างแตกทีละบาน ข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ จนถึงโซฟาจมน้ำเสียหายทั้งหมด

เธอเล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบ้านตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปีที่แล้วแม้ถูกน้ำท่วม แต่ยังสามารถกั้นกระสอบทรายและใช้เครื่องสูบน้ำช่วยจนรอดพ้นความเสียหายใหญ่ได้ กระทั่งปีนี้ ได้ลงทุนเพิ่มด้วยการซื้อเครื่องสูบน้ำถึง 3 เครื่อง และจ้างแรงงานทำแนวกั้นกระสอบทราย สู้มาตลอด 17 วัน เสียค่าใช้จ่ายวันละเกือบ 2,000 บาท รวมแล้วกว่า 70,000 บาท แต่สุดท้ายไม่ถึง 5 นาทีหลังแนวกั้นพัง น้ำก็ทะลักเข้าท่วมบ้านเต็มพื้นที่อย่างรวดเร็ว ความแรงของกระแสน้ำทำให้กระจกแตกทีละบาน เสียหายจนไม่สามารถประเมินค่าได้

“หมดแรงแล้วจริง ๆ ค่ะ พยายามเต็มที่แล้วแต่สู้ธรรมชาติไม่ไหว ปีนี้เสียหายหนักมาก ข้าวของใช้ทุกอย่างในบ้านจมหมด อยากให้รัฐเห็นใจและช่วยหาทางแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่มองว่าบางบาลเป็นพื้นที่รับน้ำที่ต้องเสียสละทุกปี” เจ้าของบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง

เธอยังเล่าด้วยว่า บ้านเรือนใกล้เคียงหลายหลังถูกน้ำท่วมถึงชั้นสอง บางครอบครัวต้องยกพื้นขึ้นไปอาศัยบนชั้นบนเพื่อหลีกน้ำ สภาพความเป็นอยู่ลำบากอย่างหนัก แม้จะได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ แต่จำนวนเงิน 9,000 – 15,000 บาทไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับความเสียหายจริงและค่าใช้จ่ายที่ชาวบ้านต้องแบกรับ

“พวกเราอยู่อย่างยากลำบากทุกปี เวลาน้ำมาทีไรก็ต้องเตรียมกระสอบทราย สูบน้ำ อดทนสู้ แต่สุดท้ายก็เสียหายเหมือนเดิม ถ้ารัฐไม่หาทางออกที่ยั่งยืนกว่านี้ ชาวบางบาลก็ต้องทนลำบากไม่รู้จบ” เธอกล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ อำเภอบางบาลถือเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นหนึ่งในจุดรองรับน้ำของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกือบทุกปีชาวบ้านต้องเผชิญกับน้ำท่วมใหญ่ แม้จะได้รับการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ แต่ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้ภาครัฐหาแนวทางแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน เพื่อไม่ให้ชุมชนต้องตกเป็น “พื้นที่รับน้ำ” ที่ต้องยอมเสียสละซ้ำแล้วซ้ำเล่า














กำลังโหลดความคิดเห็น