พระนครศรีอยุธยา - บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ประกาศเขตประสบสาธารณภัยน้ำท่วม หลังเขื่อนเจ้าพระยาปรับการระบายน้ำเพิ่ม ส่งผลระดับน้ำเจ้าพระยา–ป่าสักเอ่อท่วมชุมชน ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญยังปลอดภัย เฝ้าระวังเข้ม
วันนี้( 30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนจาก 2,200 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที เนื่องจากมีมวลน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขาหลายแห่งเพิ่มสูงขึ้น 5–10 เซนติเมตร
โดยเฉพาะที่อำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มวลน้ำจากเจ้าพระยาและป่าสักไหลสมทบ ทำให้ระดับน้ำหน้าหอประชุมอำเภอบางปะอินเพิ่มขึ้นกว่า 14 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนหลายพื้นที่
ล่าสุด นายกองตรี ดร.ภาณุพงศ์ ศิริ นายอำเภอบางปะอิน พร้อมด้วย น.ส.มุจลินท์ พนมชนม์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอบางปะอิน และผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ 300 ชุดให้แก่ผู้ประสบภัยในเขตเทศบาลตำบลบางปะอิน พร้อมเผยว่า ขณะนี้ได้ประกาศให้พื้นที่ 12 ตำบล 84 หมู่บ้าน เป็นเขตประสบสาธารณภัย มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 6,600 ครัวเรือน
แม้น้ำท่วมขยายวงกว้าง แต่พื้นที่เศรษฐกิจหลักยังไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นหัวใจอุตสาหกรรมของประเทศ ขณะนี้มีการติดตั้งกล้องวัดระดับน้ำเฝ้าระวังหลายจุด เบื้องต้นแนวคันกั้นน้ำยังแข็งแรง
อย่างไรก็ตาม นายอำเภอบางปะอินได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการสัญจร โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีน้ำทะเลหนุนสูง ระดับน้ำจะขึ้นอย่างรวดเร็ว เสี่ยงอันตรายต่อเด็กเล็กที่อาจลงไปเล่นน้ำ รวมถึงสัตว์มีพิษที่อาจมากับน้ำ พร้อมสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย เพื่อรายงานและขอรับการเยียวยาตามนโยบายรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า บริเวณ หมู่ 1 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ถนนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเข้าออก ขณะที่เทศบาลนำเรือมาให้บริการ ส่วนรถยนต์และจักรยานยนต์ต้องจอดไว้ริมถนนสายหลักแทน
นางจำนง (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า น้ำท่วมชุมชนต่อเนื่องมากว่า 1 เดือนแล้ว และระดับน้ำยังคงสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงค่ำที่น้ำทะเลหนุน ทำให้การเดินทางลำบาก ต้องใช้เรือที่เทศบาลจัดให้เท่านั้น