สระแก้ว- ทหาร ฉก.12 คุมเข้มพื้นที่พิพาท อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว เข้ารังวัดพื้นที่บ้านหนองจาน จนภารกิจลุล่วงไร้เหตุวุ่นวาย สร้างบรรทัดฐานสำคัญการแก้ไขปัญหาที่ดินชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 06.00น.วันนี้ ( 30 ก.ย.) หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 (ฉก.12) ภายใต้กองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลเข้าคุมเข้มพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของพนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศ ที่เข้าทำการรังวัดแปลงที่ดินของราษฎร
หลังได้รับการร้องเรียนเรื่องข้อพิพาท ด้านสิทธิครอบครองในพื้นที่บางแปลง และพื้นที่อ่อนไหวบริเวณ “หลักเขตที่ 46-47”
ภารกิจในครั้งนี้มีความสำคัญเนื่องจากจุดรังวัด ที่อยู่ระหว่างหลักเขตที่ 46 และหลักเขตที่ 47 เป็นเขตชายแดนไทย–กัมพูชา เคยมีปัญหาการอ้างสิทธิ์ที่ดินมาก่อน ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวเป็นที่จับตาของทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการปฏิบัติการด้านกฎหมายหรือการรังวัดอย่างเป็นทางการ
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ ฉก.12 ยังได้จัดกำลังชุดระวังป้องกัน และชุดเก็บกู้-ตรวจค้นวัตถุระเบิด (EOD) จำนวน 2 ชุด เข้าปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ โดยได้กระจายกำลังรอบจุดรังวัด พร้อมจัดตั้งจุดสังเกตการณ์ และตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด ป้องกันการลอบวางสิ่งกีดขวางหรือวัตถุอันตราย
เจ้าหน้าที่นายทหารสังกัด ฉก.12 เผยว่าหน้าที่หลักของหน่วย คือการดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่รังวัดและประชาชนในพื้นที่ และการปฎิบัติภารกิจในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใด ๆ
ส่วนบรรยากาศระหว่างการปฏิบัติงานท่ามกลางพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว พบว่าโดยรวมเป็นไปด้วยความสงบ เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความระมัดระวัง ส่วนประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและชาวบ้านใกล้เคียงต่างติดตามดูการรังวัดอย่างใกล้ชิด
หลายคนแสดงความพอใจที่มีทหารเข้ามาดูแล เพราะช่วยสร้างความมั่นใจว่าการดำเนินงานจะโปร่งใสและปลอดภัย
ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าจะเกิดปัญหาความขัดแย้ง แต่เมื่อเห็นทหารและเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัด ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบก็รู้สึกสบายใจขึ้น และมั่นใจว่าผลรังวัดจะเป็นธรรม
ด้านแหล่งข่าวจาก กองกำลังบูรพา ย้ำว่าการปฏิบัติการเช่นนี้จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงให้ความสำคัญกับสิทธิของราษฎร ขณะเดียวกันยังเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาทซ้ำซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้าน