ตราด- คุณยายเมืองตราด ไม่พร้อมไปศูนย์อพยพหากเกิดภัยสงคราม ลงทุนให้ลูกหลานสร้างบังเกอร์คอนกรีตเสริมเหล็กหนา 25 ซม.ในพื้นที่บ้านพัก ภายในตกแต่งให้อยู่ได้แบบสบายมีทั้งแอร์ ทีวี ที่นอนและระบบไฟโซลาเซล จุคนได้4-5คน
จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงมีความตึงเครียด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายขอบต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นเดียวกับชาวบ้านใน จ.ตราด ที่มีบ้านเรือนติดแนวชายแดนทที่ต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด คุณยายทองหยิบ ผากำเนิด วัย 80 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ยายยิ๊บ ชาวบ้านอำเภอเมืองตราด ที่มีบ้านอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 10 กิโลเมตร ที่ในวันนี้ได้ใช้เงินส่วนตัวสร้างหลุมหลบภัย หรือบังเกอร์เสริมเหล็กหนา 25 เซนติเมตร ไว้ภายในบริเวณบ้าน
พร้อมบอกว่าตั้งแต่การปะทะกันครั้งแรกของทหารไทยและกัมพูชา ลูกหลานได้พาตนเองอพยพไปอยู่โรงแรมเพื่อความปลอดภัยรวม 2 คืน แต่ด้วยความไม่คุ้นชินกับสถานที่และที่นอน จึงทำให้รู้สึกไม่สะดวกสบายและนอนไม่หลับ สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะไม่อพยพออกจากบ้านอีกหากเกิดภัยสงคราม
โดยได้บอกให้ลูกสาวช่วยทำให้บังเกอร์ที่แข็งแรงและแน่นหนาให้ โดยได้สร้างบังเกอร์เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ผนังมีความหนาเกือบ 1 ฟุต (25 เซนติเมตร) และสามารถรองรับคนได้ประมาณ 4-5 คน
นอกจากนั้นยังได้นำล้อยางรถยนต์วางล้อมรอบบังเกอร์ในทุกส่วน และตึงตาข่ายป้องกันโดรน ส่วนภายในบังเกอร์ได้ตกแต่งให้มีความสะดวกสบายเหมือนห้องนอนที่มีทั้ง ทีวี แอร์ ที่นอนและแผงไฟโซล่าเซลล์ เพื่อใช้ในกรณีที่ไฟฟ้าถูกตัดขาด พร้อมทั้งมีการเจาะรูระบายอากาศไว้ด้วย
คุณยายยิ๊บ บอกว่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันตนเองได้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิตกระทั่งอายุ 80 ปีพร้อมขอฝากกำลังใจไปถึงทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ และอยากให้สถานการณ์จบลงด้วยการเจรจาพูดคุยกันอย่างสันติ เพราะการสู้รบมีแต่จะทำให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย
" บังเกอร์ที่สร้างขึ้นไว้หากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ก็ไม่รู้สึกเสียดาย เพราะถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในที่ดินสามารถเก็บไว้ให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์ได้ไปในอนาคต" คุณยายยิ๊บ กล่าว