ตราด - อธิบดีกรมการปกครอง ตรวจสอบความพร้อมการดำเนินงานตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังของจังหวัดตราด พร้อมตรวจดูการอพยพประชาชนสู่พื้นที่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ( 28 ก.ย.) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ตราด เพื่อตรวจสอบความพร้อมการการดำเนินแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในภาวะไม่ปกติ (การพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง) โดยมี นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ,นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดตราด รวมทั้งนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ
พร้อมให้ข้อมูลการเตรียมความพร้อมในดำเนินการตามพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังของ 3 อำเภอที่มีพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชา ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอบ่อไร่ ประกอบด้วย อ.บ่อไร่ ,อ.คลองใหญ่ และ อ.เมืองตราด
นอกจากนั้น อธิบดีกรมการปกครอง ยังได้พบปะพูดคุยกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รวมทั้งผู้นำชุมชนพร้อมมอบเครื่องแบบ และสิ่งของให้กับผู้แทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และให้โอวาทในการปฏิบัติงาน เพื่อดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้านและชุมชน ทั้งในช่วงสถานการณ์ปกติและช่วงที่อยู่ในภาวะไม่ปกติ
จากนั้นได้ตรวจดูความพร้อมในซ้อมแผนอพยพประชาชนไปสู่พื้นที่ปลอดภัยในกรณีที่เกิดปัญหาความสงบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ของอำเภอบ่อไร่ อีกด้วย
อธิบดีกรมการปกครอง เผยว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยจากเรื่องสถานกาณณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด กรมการปกครอง ได้นำความห่วงใยมาสู่การปฏิบัติคือการเตรียมความพร้อมของนายอำเภอทุกอำเภอของ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย- กัมพูชา โดยเฉพาะการบูรณาการหน่วยงานพลเรือน ทหาร ตำรวจ รวมทั้งหน่วยแพทย์ให้พร้อมปฏิบัติงานได้ทันทีที่มีสถานการณ์ หรือได้รับการเตือนจากหน่วยทหาร ด้วยการปฏิบัติการตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง
อย่างไรก็ตามหลังจากเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จ.ตราด ได้มีการดำเนินการอพยพประชาชนมาแล้วครั้งนี้ จึงทำให้ทราบว่าทุกพื้นที่ยังสามารถดำเนินการตามแผนได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้มีการถอดเป็นบทเรียนในจุดที่ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมาปรับใช้ในการดำเนินการให้มีความพร้อมขั้นสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
และยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของศูนย์พักพิงชั่วคราว และติดตามการ ซักซ้อมอพยพประชาชน ในกรณีเกิดสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากปัญหาบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อสร้างความมั่นใจว่า กรมการปกครองจะสามารถดูแลและปกป้องพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่