ภาคกลาง - ส.ว.เดินหน้าคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้บุกรุกป่า เหตุขัดกฎหมาย–เอื้อทุนฮุบทรัพยากร พร้อมทำหนังสือคัดค้านไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง วันนี้(25 ก.ย.) ที่จะมีการประชุมของคณะอนุกรรมกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร
นายจิรศักดิ์ ชูความดี ประธานคณะอนุกรรมกรรมาธิการด้านทรัพยากรทางบกในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านทรัพยากรทางบก วุฒิสภา ครั้งที่ 30/2568 ที่รัฐสภา โดยมีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ นายบุญเชิด ลีลาคุณากร อนุกรรมาธิการและเลขานุการ นายภูษิต พรหมมาณพ นายกิตติ ศาลาพรชัย นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ที่ นายธนากร พัฒน์ธนเมธา ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ พร้อมคณะ รวมทั้งหมด 15 คน เข้าร่วมประชุม
ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างของสมาชิกวุฒิสภา 2 ร่าง ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ...ที่เสนอโดย นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทิดสกุล สส.พรรคประชาชน และ นายซูการ์โน่ มะทา สส.พรรคประชาชาติ โดยในที่ประชุมมีความเห็นและคัดค้าน ดังนี้
1. ขัดกับหลักการของ “กฎหมายมหาชน” (Public Law) ที่มีเจตนาเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะที่ประชาชนทุกคนต้องมีสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้นการจะให้มีการยกเว้นการกระทำความผิดในที่ดินของรัฐ จะต้องได้รับการพิสูจน์เชื่อได้ว่า “ขาดเจตนา” ในการกระทำความผิด ซึ่งกรณีดังกล่าวสามารถพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมปกติได้อยู่แล้ว นอกจากนี้อาจกระทบสิทธิบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม
2. นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการ/แผนงาน แก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ยากไร้ ที่ไม่มีที่ดินทำกินให้สามารถอยู่ในที่ดินของรัฐอย่างถูกกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ สทก. , การมอบที่ดินป่าไม้ให้ สปก.ไปปฏิรูปที่ดิน , มติ ค.ร.ม.เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ต่างๆ , โครงการ คทช. เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการ "ยกเว้นความผิด" ในการบุกรุกที่ดินของรัฐให้อยู่แล้วโดยมิต้องตราเป็นกฎหมายใหม่
3. การถูกจับกุมดำเนินคดี เกิดจากมีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติม การนำที่ดินของรัฐไปซื้อ -ขาย ให้กับบุคคลอื่น หรือนายทุน การสร้างบ้านพักตากอากาศ โรงแรมและรีสอร์ท ฯลฯ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ที่ไม่มีที่ดินทำกิน
4. การกำหนดให้ “คณะกรรมการนิรโทษกรรม หรือ ยกเว้นความผิด” ทั้งในระดับจังหวัด และ ระดับวินิจฉัยชี้ขาด มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาความเห็นชอบ หรือ วินิจฉัยคำอุทธรณ์ชี้ขาด ให้บุคคลได้รับการยกเว้นการกระทำความผิด โดยไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพื้นที่อันเป็นสถานที่เกิดเหตุร่วมอยู่ด้วย อาจเกิดการใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ ส่งผลให้การกระทำนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกเพิกถอนคำสั่งนั้นได้ในอนาคต
5. การกำหนดให้เมื่อบุคคลได้รับการยกเว้นความผิดตามความเห็นของ “คณะกรรมการนิรโทษกรรม หรือ ยกเว้นความผิด” ทั้งในระดับจังหวัด และ ระดับวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ให้มีผลตามมาโดยให้ยุติ สั่งไม่ฟ้อง สิ้นสุดการรับโทษ พ้นจากการคุมประพฤติ ในกระบวนการดำเนินคดีทุกชั้น นั้น เป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหารไปแทรกแทรง อำนาจฝ่ายตุลาการ ที่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ
6. เมื่อมีการกำหนดให้บุคคลได้รับการยกเว้นความผิดแล้ว ให้ที่ดินของบุคคลดังกล่าวกลับมาเป็นที่ดินที่ไม่เคยตรวจยึดมาก่อน และหากได้เข้าทำประโยชน์ "ก่อน" กำหนดพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมายครั้งแรก ให้คืนสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน นั้น เห็นว่ากรณีดังกล่าวรัฐได้กำหนดให้มี "คณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด" (คพร. จังหวัด) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำหน้าที่พิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินในเขตที่ดินของรัฐตามที่ คทช. กำหนด เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกและออกเอกสารสิทธิให้แก่ประชาชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องบัญญัติเป็นกฎหมายใหม่อีก
7. ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ระหว่างปี พ.ศ.2545 - 2557 ที่มีการกำหนดนโยบายด้านการป้องกันรักษาป่า และการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในเขตป่าไม้ ที่ไม่สอดคล้องกันนั้น หากพบว่าผู้ได้รับผลกระทบมีคุณสมบัติเป็นผู้ยากไร้และควรได้รับสิทธิในการแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้ตามโครงการของรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเสนอต่อรัฐบาลเพื่อกำหนดมาตรการเยียวยาให้แก่ราษฎรเฉพาะรายนั้น โดยไม่จำเป็นต้องตราเป็นกฎหมาย
และ 8. แม้(ร่าง)กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ มีเจตนาเพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ราษฎร ที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็จำเป็นต้องมีการพิจารณาด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบอื่นๆ โดยเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นสมบัติของประชาชนในชาติทุกคน ที่อาจส่งผลทางลบต่อคุณภาพชีวิตในภาพรวมได้
นายจิรศักดิ์ ชูความดี ประธานคณะอนุกรรมกรรมาธิการด้านทรัพยากรทางบกฯ กล่าวว่า และในวันนี้(25 พ.ย. 68) เวลา 13.30 น.จะมีการประชุมของคณะอนุกรรมกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ที่ห้องประชุม CB406 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นประธานการประชุมนัดที่สองในการพิจารณาร่างทั้ง 2 ร่าง ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านทรัพยากรทางบก วุฒิสภา จะทำหนังสือคัดค้านไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เพื่อส่งความเห็นตามข้อคัดค้าน ข้างต้น ต่อไป