xs
xsm
sm
md
lg

ผู้บัญชาการ ตร.ภาค 5 นำแถลงผลปฏิบัติการ "ล่าทรชนคนอันธพาล" รวบหัวหน้าแก๊งต่างด้าวฟันเด็กมือขาด จับ ผตห.-ของกลางเพียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำแถลงผลปฏิบัติการล่าทรชนคนอันธพาล รวบ "ไอ้ท็อป" หัวหน้าแก๊งต่างด้าวก่อเหตุสะเทือนขวัญรุมทำร้ายฟันเด็กหญิงวัย 14 ข้อมือขาด พร้อมกวาดล้างการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ทั้งแรงงานต่างด้าว, บุหรี่ไฟฟ้า, น้ำกระท่อม จับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางเพียบ


วันนี้ (23 ก.ย. 68) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พลตำรวจตรี ยุทธนา แก่นจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ และพลตำรวจตรีบุณยวัต เกิดกล่ำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการล่าทรชนคนอันธพาล ภายหลังการติดตามจับกุมตัว “ไอ้ท็อป” หัวหน้าแก๊ง 999 ที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาสมรู้ร่วมคิดร่วมกับ “ไอ้หม่อง” ก่อเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันเด็กวัยรุ่นบาดเจ็บรวม 3 ราย และหนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกฟันจนมือขวาขาด ช่วงดึกของวันที่ 16 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ในร้านสะดวกซักสกาย ย่านตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และต่อมาได้พากันหลบหนีไป

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า จากการสอบสวนนายท็อปให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายหม่อง มือฟัน ก่อเหตุจริง โดยตนเองเป็นหัวหน้าแก๊งไทใหญ่ 999 หลบหนีคดีจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดเชียงใหม่เพื่อหางานและมารู้จักนายหม่อง มือฟัน วันเกิดเหตุนั้นรุ่นน้องของตนถูกกลุ่มวัยรุ่นแก๊งอื่นทำร้าย จึงมีการแจ้งกันผ่านไลน์กลุ่มเพื่อไปไล่ล่าอริ กระทั่งเจอกลุ่มผู้เสียหาย จึงได้ลงมือก่อเหตุก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยตนหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปยังอำเภอสารภี ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์เข้ากรุงเทพฯและเดินทางไปอำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อหลบหนีข้ามแดนไปจังหวัดกัมพูชา กระทั่งถูกจับกุม ยอมรับว่าที่ก่อเหตุไปนั้นทำร้ายผิดตัว และไม่ทราบว่าผู้เสียหายที่นายหม่องฟันข้อมือขาดนั้นเป็นผู้หญิง จึงรู้สึกเสียใจและต้องการขอโทษผู้เสียหาย ทั้งนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายจนก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธติดตัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 210, 215 และมาตรา 297 พยายามฆ่า


นอกจากนี้ พลตำรวจโท กฤตธาพลกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 5 ทั้งตำรวจภูธรเชียงใหม่, ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ออกปฏิบัติการไล่ล่าทรชนคนอันธพาล กระทั่งทราบว่าแก๊งไทใหญ่ที่มาก่อเหตุนั้นมีทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ แก๊ง 999 แก๊ง 979 แก๊งดูไบ และแก๊งบัวดำ ซึ่งขณะนี้มีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 30 คน จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 18 ราย เหลืออีก 12 ราย ขณะเดียวกันได้ออกหมายจับนายเดือน หัวหน้าแก๊งบัวดำแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งทั้ง 4 แก๊งนี้มีสมาชิกประมาณ 80 คน เพิ่งรวมตัวกันตั้งกลุ่มได้ประมาณ 1 เดือน โดยจะนัดรวมกลุ่มกันที่โต๊ะสนุกเกอร์ย่านศรีบัวเงิน และร้านก๋วยเตี๋ยวย่านป่าแดด พากันดื่มน้ำกระท่อมเพื่อสร้างความฮึกเหิม ก่อนออกไปก่อเหตุ โดยเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ตำรวจก็ได้ทลายแก๊งเหล่านี้ไปรอบหนึ่งแล้ว สมาชิกบางรายถูกจำคุก กระทั่งมารวมตัวก่อเหตุอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเหตุอุกอาจ จึงได้ระดมกำลังตำรวจออกกวาดล้างแก๊งไทใหญ่และแรงงานผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 189 คน ได้แก่ ลักลอบเข้าเมือง 93 คน,ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 16 คน,ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 16 คน,ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ 2 คน,ความผิดเกี่ยวกับทำร้ายร่างกาย 2 คน,Overstay 3 คน,บุคคลตามหมายจับไทย 2 คน และอื่นๆ อีก 55 คน เช่น บุหรี่ไฟฟ้า หรือผลิตและขายน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการกวาดล้างและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว และใกล้เทศกาลลอยกระทง หากไม่กวาดล้างแก๊งเหล่านี้ก็อาจมารวมกลุ่มก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอีก












กำลังโหลดความคิดเห็น