เชียงใหม่ - ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เผยข้อมูลอนุญาตครอบครองสิงโตในพื้นที่รับผิดชอบมีจำนวนทั้งสิ้น 26 ตัว โดย 22 ตัว อยู่ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ส่วนที่เหลือ 4 ตัว เป็นของบุคคลทั่วไปรายละ 1 ตัว จัด จนท.ติดตามตรวจสอบควบคุมให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เคร่งครัดต่อเนื่อง เชื่อมั่นไร้เหตุร้าย แต่ไม่ประมาท
จากกรณีเมื่อวันที่10ก.ย.68 เกิดเหตุสิงโตในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ รุมขย้ำเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ที่เป็นคนเลี้ยงจนเสียชีวิต ซึ่งทำให้คนจำนวนหนึ่งรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดผวาไม่สบายใจ เพราะนอกจากการเลี้ยงสิงโตในสวนสัตว์แล้ว พบว่าในปัจจุบันมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ชื่นชอบและนำสิงโตมาเลี้ยงไว้ในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัว เนื่องจากในประเทศไทยกำหนดให้สิงโตเป็นสัตว์ป่าควบคุม ซึ่งสามารถยื่นขออนุญาตครอบครองได้จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทั้งนี้หากได้รับใบอนุญาตแล้วต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด ทั้งเรื่องความปลอดภัยของสถานที่เลี้ยง สวัสดิภาพสัตว์ และผลกระทบต่อชุมชน
ทั้งนี้นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการครอบครองสิงโตในพื้นที่รับผิดชอบ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่,ลำพูน และแม่ฮ่องสอน พบว่าปัจจุบันการครอบครองสิงโต รวมทั้งสิ้น 26 ตัว โดยเป็นสิงโตที่อยู่ในการครอบครองของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จำนวน 22 ตัว ส่วนที่เหลือ 4 ตัว เป็นการครอบครองของบุคคลทั่วไป ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่,อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่,อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ รายละ 1 ตัว
สำหรับการควบคุมตรวจสอบผู้ได้รับอนุญาตให้ครอบครองสิงโตให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นั้น นายกริชสยาม กล่าวว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 มีการจัดเจ้าหน้าที่ ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ,ฝ่ายปกครอง,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,ปศุสัตว์ และผู้ใหญ่บ้าน ทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตั้งแต่ขั้นตอนการขออนุญาตครอบครอง ทั้งคุณสมบัติของผู้ยื่นขอใบอนุญาต และสถานที่ครอบครอง ซี่งจะต้องมีการจัดทำคอกกักและแนวกั้นให้มีความแข็งแรงคงทนและต้องเป็นกรง 2 ชั้น รวมทั้งต้องมีการจัดทำระบบความปลอดภัย,ระบบเตือนภัย,ระบบการป้องกันและระบบต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อคนและคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์เป็นสำคัญด้วย
ขณะเดียวกันแม้ว่าจะได้รับการอนุญาตให้ครอบครองแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงมีการลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเข้มงวด ซึ่งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ครอบครองทุกรายในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามจากกรณีที่เกิดเหตุสิงโตทำร้ายคนเลี้ยงในสวนสัตว์ ได้มีการเน้นย้ำกำชับผู้ครอบครองทุกรายให้ตระหนักยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุกรายสามารถปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดีและจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น.
