สมุทรสงคราม – ป.ป.ช. สมุทรสงคราม ขับเคลื่อนโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต เน้นกลไกป้องกันเชิงบวก ตรวจสอบโปร่งใสทุกโครงการ พร้อมเผยผลการดำเนินงานทั้งด้านการประเมินคุณธรรม ITA การปลูกฝังเยาวชน และผลชี้มูลคดีสำคัญหลายคดีที่ส่งดำเนินคดีต่อ
น.ส.กาญจนา คำสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม แถลงผลการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเน้นย้ำถึงการทำงานเชิงรุก ผ่านโครงการ “ปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต” เพื่อสร้างกลไกเฝ้าระวังให้หน่วยงานภาครัฐทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีธรรมาภิบาล
สำหรับโครงการดังกล่าว ไม่ใช่การซ้ำเติมหน่วยงาน แต่เป็นการป้องกันเชิงบวก โดยมีการติดตามโครงการสำคัญในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เช่น การก่อสร้างซุ้มประตูเมืองเฉลิมพระเกียรติฯ, การซ่อมแซมถนนเชิงสะพานสมเด็จพระศรีสุริเยนทร์, การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งคลองแควอ้อม, โครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนบางกะพ้อม และการจัดซื้อระบบ VR เพื่อการแพทย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตสมุทรสงคราม ขณะเดียวกันยังได้จัดทำ Checklist เอกสาร สำหรับการออกใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง และรื้อถอนอาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและลดช่องว่างการทุจริต
ด้านการปลูกฝังวัฒนธรรมต้านทุจริตแก่เยาวชน สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินโครงการ “STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต” ในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา พร้อมสร้างเครือข่ายเยาวชน “Watch & Voice” ให้เข้ามามีบทบาทสอดส่องความโปร่งใสในสังคม
ส่วนผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) ปี 2568 จังหวัดสมุทรสงคราม ได้คะแนนรวม 95.75 คะแนน ขยับจากอันดับ 37 มาอยู่อันดับ 22 ของประเทศ มีหน่วยงานระดับ “ดีเยี่ยม” 6 แห่ง และระดับ “ดี” อีก 27 แห่ง สะท้อนภาพรวมการพัฒนาการทำงานเชิงบวกของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่
สำหรับงานตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ตรวจสอบแล้ว 180 รายการ และมีเรื่องร้องเรียนกล่าวหาอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ รวมกว่า 70 เรื่อง ตั้งแต่ปี 2561–2568 สำนักงาน ป.ป.ช. สมุทรสงคราม ได้ชี้มูลความผิดแล้ว 5 คดี อาทิ คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส และคดีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ
หนึ่งในคดีสำคัญ ได้แก่ กรณี นางธิดารัตน์ วรรณประทีป อดีตนักวิชาการศึกษาชำนาญการ เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ถูกชี้มูลความผิดร้ายแรงจากการแก้ไขรายละเอียดในเช็คค่าอาหารกลางวันเด็ก และนำไปขึ้นเงินเข้าบัญชีตนเอง ซึ่งเข้าข่ายทุจริตชัดเจน โดย ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย
อีกคดีที่น่าจับตา คือการชี้มูลความผิดทางอาญาต่อ น.ส.กาญจน์สุดา ปานะสุทธะ อดีตนายก อบจ. สมุทรสงคราม และ นายนพพล ธนิกุล อดีตเลขานุการฯ กรณีลักลอบนำกากแอสฟัลต์ไปถมบ้านพักตนเอง ซึ่งเข้าข่ายใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและสร้างความเสียหายแก่รัฐ โดยจะถูกส่งฟ้องศาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม น.ส.กาญจนา ย้ำว่า การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักกฎหมาย จนกว่าจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจากศาล