จันทบุรี - กปช.จต.แจงเขมรรุกล้ำพื้นที่ไทยใน 2 อำเภอของ จ.ตราด รวม 17 จุดจากผลการลงนาม MOU 43 ยันประท้วงเขมรโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังมีการสร้างอาคารกาสิโนในพื้นที่บ้านทมอดา จนเปิดจุดผ่านแดนถาวรไม่ได้ ชี้ทหารพร้อมใช้กำลังเข้าจัดการเด็ดขาดแต่เป็นห่วงประชาชน
จากกรณีที่ปรากฏข่าวการรุกล้ำอธิปไตยไทยในพื้นที่ จ.ตราด ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามมาตราส่วน1:50000 โดยทหารเขมร ลุกล้ำพื้นที่ 3 จุดปีะกอบด้วย จุดที่1เป็นกองร้อย ตชด.825 (กัมพูชา)ซึ่งมีอาคารล้ำเข้ามาประมาณ15เมตร
จุดที่2เป็นแนวคูเรตบริเวณสวนยาง ซึ่งมีบางส่วนของพื้นที่สวนยางล้ำเข้ามาในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศไทยประมาณ125เมตร และจุด ที่3 เป็นกองร้อย ลว.ที่1 ของ พัน.ปชด.501ของกัมพูชา ซึ่งมีแนวคูเรตล้ำเข้ามาในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของประเทศไทย ประมาณ 30 เมตรนั้น
ซึ่งทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าว กปช.จต. ดำเนินการผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามออกนอกพื้นที่หมดแล้ว ไม่มีกำลังฝ่ายตรงข้ามอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว อีกทันปัจจุบัน กปช.จต. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างกันเรียบร้อยแล้วนั้น
วันนี้ (16 ก.ย.) น.อ.เอกภูริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) ได้เปิดเผยถึงการรุกล้ำพื้นที่ประเทศไทย 3 จุด บริเวณบ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมืองตราด ว่สเป็นเรื่องจริงที่มีการลุกล้ำมาหลายสิบปีแล้ว แต่เป็นการล้ำพื้นที่ไม่มากเหมือนในเขตบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
" ที่ผ่านมา ฝ่ายทหาร ได้ทำเรื่องประท้วงมาโดยตลอดเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชาล่าถอยออกไป แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร และหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวทางทหารได้ทำการตรวจสอบจนพบว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และได้เข้าดำเนินการผลักดันออกไปทั้งหมดแล้วเช่นกัน"
ทั้งนี้ ผบ.ฉก.นย.ตราด ยืนยันว่า ทหารไทย ยังคงรักษาอธิปไตยไทยไม่ให้มีการรุกล้ำพื้นที่เพิ่มเติม ส่วนการผลักดันนั้น ทางทหาร พร้อมใช้กำลังเข้าจัดการเด็ดขาด เพียงแต่ทหาร เป็นห่วงประชาชนชาวตราด ที่อาจจะได้รับผลกระทบหากเกิดการปะทะขึ้น
อย่างไรก็ตาม จ.ตราด มีพื้นที่ 2 อำเภอที่อยู่ติดชายแดนกัมพูชา คือ อ.เมืองตราด ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดน 4 ตำบลคือ ต.ท่ากุ่ม, ตะกาง, ชำราก และ ต.แหลมกลัด ที่อยู่ติดกับ อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต
ส่วน อ. คลองใหญ่ มีพื้นที่ติด จ.เกาะกง โดยมี 3 ตำบลติดชายแดน คือ ต.ไม้รูดม, คลองใหญ่ และต.หาดเล็ก ซึ่งตลอดระยะทางมีพื้นที่ท่ถูกกัมพูชารุกล้ำตาม MOU 43 จำนวน 17 จุด และที่ผ่านมาได้มีคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ,กรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งสภาความมั่นคง เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด และชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 (ชค.ทพ.นย.ที่ 3) ได้มีความพยายามบรรยายสรุปและชี้แจงถึงปัญหาในเรื่องดังกล่าว หลังภาคเอกชนมีความพยายามเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านท่าเส้นกับบ้านทมอดา ต.เวียงเวล อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต แต่ฝ่ายความมั่นคง(สภาความมั่นคงแห่งชาติ)ไม่ยินยอม
เนื่องจากพบว่าฝ่ายกัมพูชา มีการก่อสร้างอาคารกาสิโนหลังที่ 2 และบ้านพักทหารชายแดน ล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยและไม่ยอมรื้อถอนออกไป แม้ฝ่ายนักธุรกิจใน จ.ตราดจะให้งบประมาณในกาารื้อถอนจำนวน 3 ล้านบาท แต่รัฐบาลกัมพูชา ก็ยังไม่ยินยอม ทำให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่เปิดจุดผ่านแดนบริเวณนี้
แม้จะมีภาคเอกชนและฝ่ายการเมืองของ จ.ตราดพยายามผลักดัน หลังทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาทสร้างถนน 4 เลนเข้ามาเชื่อมกับถนนที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างมาเชื่อมแล้วก็ตาม
โดยจำนวนพื้นที่ 17 จุด ที่กัมพูชารุกล้ำและละเมิดเขตแดนไทยตามMOU 43 ประกอบด้วย พื้นที่่ ต.ชำราก 4 จุด, และต.แหลมกลัด 6 จุด ส่วนใน อ.คลองใหญ่ ประกอบด้วย ต.ไม้รูด 5 จุด, ต.คลองใหญ่ 1 จุด และ ต.หาดเล็ก 1 จุด