สระแก้ว — "รังสิมัน โรม" นำคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน รับฟังปัญหาความมั่นคง–ข้อพิพาทที่ดินพร้อมเสนอจัดหา “แอนตี้โดรน” เสริมกำลังป้องกันแนวชายแดน
วันนี้ ( 6 ก.ย.) คณะกรรมาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายรังสิมัน โรม ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อดูสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และรับฟังปัญหา-ข้อเท็จจริงจากหลายฝ่าย ทั้งในเรื่องความมั่นคงบริเวณแนวชายแดน การลักลอบเข้าเมือง การค้าชายแดน และข้อพิพาทสิทธิในที่ดินที่มีผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่และต่อความมั่นคงของประเทศ
โดยเฉพาะการอ้างสิทธิในพื้นที่ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้านฝั่งไทยกว่า 170 หลังคาเรือน (ตามข้อมูลต้นทางในพื้นที่) ที่เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอเป็นนโยบาย
โดยมี พ.อ.ณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ให้การต้อนรับและชี้แจงสภาพพื้นที่จริง ก่อนนำคณะลงตรวจเยี่ยมจุดที่มีการปักป้าย 3 ภาษา (ภาษาไทย-กัมพูชา-ภาษาอื่น) บริเวณแนวเขตรั้วชายแดน
ขณะที่บรรยากาศบริเวณพื้นที่ชายแดนในวันนี้ยังคงมีความตึงเครียด แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ จึงไม่ทำให้มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ
และยังคงมีชาวบ้านนำอาหารมาเลี้ยงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือของชุมชนในการดูแลแนวชายแดนและกำลังพล
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ให้ความสำคัญกับมาตรการเสริมความมั่นคงที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการรับมือภัยจากเทคโนโลยี เช่น โดรน ซึ่งถูกนำมาใช้ในพื้นที่ชายแดนในหลายบริบท และเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการป้องกันหรืออุปกรณ์ “แอนตี้โดรน” (anti-drone) เพื่อช่วยตรวจจับและสกัดการรุกล้ำที่อาจเป็นภัยต่อกำลังพลและประชาชนในพื้นที่
โดยจะได้นำเสนอและประสานไปยังส่วนกลางเพื่อพิจารณาจัดหาและติดตั้งในพื้นที่ที่จำเป็นเป็นลำดับแรก
และนอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว คณะกรรมาธิการฯ ยังได้เสนอแนวทางเชิงบริหารและนโยบาย ทั้งการจัดตั้งกลไกประสานงานระหว่างหน่วยงาน (ระดับจังหวัด–ส่วนกลาง) เพื่อรวบรวมข้อมูลข้อพิพาทที่ดินและดำเนินการตรวจสอบเชิงเทคนิค (เช่น การรังวัดแนวเขตจากกรมที่ดิน/กรมแผนที่)
การเสริมกำลังลาดตระเวนและการเฝ้าระวังแนวชายแดนร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และตรวจคนเข้าเมือง เพื่อลดการลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์และการค้าที่ผิดกฎหมาย
รวมทั้งจัดตั้งคณะทำงานหรือเวทีเจรจาระดับท้องถิ่นร่วมกับตัวแทนชุมชน (ผู้นำท้องถิ่น) เพื่ออธิบายสิทธิและแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดิน พร้อมแก้ไขข้อขัดแย้งเชิงพื้นที่แบบมีส่วนร่วม
ทั้งนี้ พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ยังได้ชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯ ว่าหน่วยได้จัดกำลังและมาตรการควบคุมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเหตุร้ายและคุ้มครองสิทธิของประชาชนไทย พร้อมยืนยันว่าจะร่วมมือกับหน่วยงานพลเรือนในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทพื้นที่เชิงกฎหมาย
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ได้ฝากถึงคณะกรรมาธิการฯ ว่าต้องการให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยุติธรรม และขอให้หน่วยงานกลางเร่งรัดการรังวัดแนวเขตและคืนความชัดเจนด้านสิทธิที่ดิน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถทำมาหากินได้โดยไม่ต้องหวาดระแวง
นอกจากนั้นชาวบ้านยังคาดหวังการดูแลด้านสาธารณูปโภคและความปลอดภัยเพิ่มเติมจากภาครัฐต่อไป