พระนครศรีอยุธยา – ผู้ว่าฯ อยุธยา นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา–ป่าสัก หลังเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 ต้องเร่งระบายน้ำรับมวลน้ำจากภาคเหนือ พร้อมหารือมาตรการเดินเรือเพื่อความปลอดภัย และติดตามความคืบหน้าการติดตั้งแนวบังเกอร์ป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม
วันนี้( 3 ก.ย.) ที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นาย นิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา นางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายวันชัย ปังพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา และนายสุรศักดิ์ จำลองกุล ประชาสัมพันธ์จังหวัด ร่วมประชุมวางมาตรการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลาก
ทั้งนี้ การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท และเขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่กระแสน้ำไหลเชี่ยว สำนักงานเจ้าท่าฯ จึงได้ประเมินและกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ
โดยในที่ประชุมมีมติอนุญาตให้เรือลากจูงขนส่งสินค้าเดินเรือได้ตามปกติในลักษณะ 4 พ่วง แต่ต้องมีเรือโต่งท้ายร่วมด้วย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและไม่ให้กระทบต่อบ้านเรือนประชาชนริมตลิ่งทั้งสองฝั่ง
จากนั้นคณะผู้บริหารจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ลงเรือตรวจการณ์สำรวจเส้นทางน้ำ ตั้งแต่จุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสัก บริเวณวัดพนัญเชิง จนถึงพื้นที่ อ.บางบาล เพื่อประเมินสถานการณ์และจุดเสี่ยงน้ำท่วม พร้อมติดตามความคืบหน้าการติดตั้งแนวบังเกอร์ป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา
สำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ได้รับการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยทหาร ในการติดตั้งแผ่นบังเกอร์สำเร็จรูปจำนวน 138 แผ่น สูง 1.90 เมตร กว้าง 1.20 เมตร ปิดแนวยาวกว่า 165 เมตรริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัด ขณะนี้ระดับน้ำยังต่ำกว่าสันเขื่อนราว 1 เมตร
นอกจากวัดไชยวัฒนารามแล้ว โบราณสถานริมแม่น้ำอื่นๆ เช่น วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ก็ได้มีการติดตั้งแนวป้องกันน้ำไว้แล้วเช่นกัน เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำหลากที่อาจเกิดขึ้น
นาย นิวัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมชลประทานมีการระบายน้ำในอัตราไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จังหวัดได้เตรียมพร้อมทุกด้าน ทั้งตรวจสอบความแข็งแรงของประตูระบายน้ำ เตรียมบุคลากรและเครื่องจักรสนับสนุนในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการระบายน้ำ การพยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ย้ำว่า ขณะนี้โบราณสถานและวัดสำคัญต่างๆ ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามปกติ ถนนทุกสายในพื้นที่ยังสัญจรได้ตามปกติ และยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำแต่อย่างใด