อุดรธานี - มันคือโจร 70 ไม่ใช่โจร 500! ผู้ปกครองโร่แจ้งตำรวจหลังลูกชายถูกขู่รีดเงินหน้าโรงเรียน 200 บาท แต่เด็กมีแค่ 70 บาทจึงโอนเข้าบัญชีให้ ไม่เกิน 24 ชั่วโมงตำรวจตามล่าตัวสำเร็จ ตรวจฉี่พบมีสารเสพติด เจ้าตัวอ้างไม่ได้ขู่แค่ขอยืม เพิ่งออกจากคุกคดีลักทรัพย์
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sathian Jutima ในกลุ่ม “อุดร มีข่าว มีหมอลำ งานบุญ มีเหตุการณ์ต่างๆ” โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความฝากเตือนภัย ระบุว่า ขณะนี้มีโจรผู้ร้ายชุกชุมถึงขั้นมาขู่กรรโชกทรัพย์เอาเงินจากนักเรียนที่มารอรถกลับบ้านในตอนเย็นหน้าโรงเรียน และขอให้ผู้ปกครองกำชับให้ลูกรออยู่ในโรงเรียนก่อน พร้อมฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมให้ได้
ต่อมาเมื่อเวลา 21.22 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2568 นางวาสนา (สงวนสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ปกครองของเด็กชาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.เปรม เตรียมตัว สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเป็นหลักฐานว่าลูกชายถูกข่มขู่ขอยืมเงิน 200 บาท แต่เด็กไม่มีเงินสด จึงโอนเงิน 70 บาท เข้าไปยังบัญชีชื่อ นายเวชพิสิท วงศ์ผดุง แต่ผู้ปกครองเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อลูกชายในวันหลังอีก จึงมาแจ้งความต่อตำรวจ
ล่าสุดบ่ายวันที่ 30 สิงหาคม 2568 ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี นำโดย พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี สั่งการให้ พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ รอง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจไปเชิญตัวชายที่ข่มขู่เงินมาสอบถาม โดยลงพื้นที่โครงการบ้านเอื้ออาทรบ้านจั่น
ขณะตำรวจเรียกให้เปิดประตู นายเวชพิสิทได้ออกจากห้องปีนขึ้นหลังคาและวิ่งหนีไปกว่า 500 เมตร ก่อนที่ตำรวจจะวิ่งตามจับกุมได้ในที่สุด แล้วควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมให้ผู้เสียหายชี้ตัว ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน
จากการตรวจปัสสาวะนายเวชพิสิท ผลเป็นบวกมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนเงิน 70 บาท ผู้เสียหายไม่ได้ต้องการรับคืน แต่ขอให้ดำเนินคดี เบื้องต้นนายเวชพิสิทถูกแจ้งข้อหาข่มขืนใจ/ข่มขู่รีดทรัพย์ เสพยาเสพติดให้โทษ และหลบหนี/ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะถูกเรียกตัว นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
นางวาสนา (สงวนสกุล) อายุ 45 ปี ผู้ปกครองของน้องแฟรงค์ เล่าว่า เท่าที่สอบถามลูกชายบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 17.00 น. ลูกชายเลิกซ้อมฟุตบอลและเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะซื้อน้ำดื่ม ขณะเดินไปเกือบถึงร้าน มีชายขี่มอเตอร์ไซค์มาประกบและขอยืมเงิน 200 บาท ลูกชายตอบว่าไม่มี มีเพียง 70 บาทจึงสั่งให้โอนเข้าบัญชีชายคนนั้น ที่โอนให้เพราะกลัวจึงทำตามคำขู่
“เหตุการณ์นี้น่ากลัวมาก ฟังลูกชายเล่าแล้วรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครๆ เลย หลังเกิดเหตุต้องมาแจ้งความไว้เพื่อจะไม่เกิดเหตุซ้ำอีก ดีใจที่ตำรวจทำงานรวดเร็ว ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองอุดรธานีทุกนายที่ใส่ใจความปลอดภัยของประชาชน” นางวาสนากล่าว
ด้านน้องแฟรงค์ อายุ 14 ปี เล่าว่า ตอนนั้นกำลังจะออกมาซื้อน้ำ มีคนขี่รถมอเตอร์ไซค์มาประกบ เขาถามว่าขอแลกเงินหน่อย พอคุยสักพักเขาบอกว่าจะเอาเงินไปซ่อมโทรศัพท์และมอเตอร์ไซค์ ชายคนนั้นเขาบอกว่าขอยืม 200 บาท ตนก็บอกว่าไม่มี มีแค่ 70 บาท พอโอนเงินให้เสร็จชายคนนั้นก็บอกว่าเดี๋ยวพี่จะโอนเงินให้และให้เฟซบุ๊กไว้จากนั้นเขาก็ขี่รถหนีไป
ขณะที่นายเวชพิสิท คนก่อเหตุ บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยท่าทีวกวนสับสนว่า ตนเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำได้ไม่นานในคดีลักทรัพย์ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะขณะนั้นน้ำมันหมดและตนหิวข้าว จึงตัดสินใจขอยืมเงินไม่ได้ข่มขู่ ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการเสพยาเสพติดว่าเคยยุ่งเกี่ยวหรือเสพไหม นายเวชพิสิทปฏิเสธโดยส่ายศีรษะว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และยืนยันว่าตนเป็นคนดี หลังออกจากคุกก็ทำงานหาเลี้ยงชีวิต และยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเพียงการขอยืมเงินเท่านั้น