ลพบุรี - สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ชี้ยังต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงใบสุทธิหลวงพ่ออลงกต หากพบสวมชื่อ–เลขบัตรประชาชนถือว่ามีความผิด ส่วนวัดพระบาทน้ำพุยอมจ่ายค่าปรับ 20,000 บาทกรณีเก็บศพไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเตรียมฌาปนกิจโดยเร็วที่สุด
วันนี้( 25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี พบกับนายวีระ จำลอง ผู้อำนวยการ พศ.ลพบุรี ให้ข้อมูลกรณีการตรวจสอบใบสุทธิของหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ว่าตามขั้นตอน ผู้บวชต้องยื่นหลักฐานกับพระอุปัชฌาย์ แต่ในอดีตใบสุทธิไม่ได้ระบุเลขบัตรประชาชน 13 หลักชัดเจน ซึ่งกรณีนี้ยังต้องให้หน่วยงานทะเบียนราษฎร์ตรวจสอบ หากมีเจตนาสวมข้อมูลผู้อื่นจริง ถือว่าผิดกฎหมาย
นายวีระ ระบุเพิ่มเติมว่า ใบสุทธิล่าสุดมีเลขบัตรลงท้าย 507 ซึ่งตรงกับบัตรประชาชนของบุคคลอื่น ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ส่วนกรณีการนำเอกสารไปใช้ทำธุรกรรมหรือจัดตั้งกองทุน ต้องดูว่าใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์และมีเจตนาอย่างไร หากไม่สุจริตก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ในขณะที่วัดพระบาทน้ำพุ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปชำระค่าปรับ 20,000 บาทกับเทศบาลเมืองเขาสามยอด หลังพบการเก็บศพโดยไม่แจ้งท้องถิ่น ศพละ 1,000 บาท รวม 20 ศพ โดยศพที่มีใบมรณบัตรครบ 16 ศพ จะเร่งดำเนินการฌาปนกิจโดยเร็วที่สุด แต่ยังไม่กำหนดวันชัดเจน
โดยช่วงบ่ายวันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี จัดเวทีเสวนาเกี่ยวกับการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ หากมีเหตุจำเป็นต้องยุบมูลนิธิธรรมรักษ์ จะต้องจัดการรองรับผู้ป่วยเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียงประมาณ 40 ราย, ผู้ที่บ้านไม่รับกลับ และผู้ที่สุขภาพแข็งแรงพอไปอยู่ที่อื่นได้ ซึ่งหน่วยงานรัฐพร้อมดูแล
ด้าน ผศ.พญ.จุรีรัตน์ บวรวัฒนวงศ์ นายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าในขณะนี้ผู้ป่วยเอดส์ที่รักษาตัวอยู่ภายในวัดพระบาทน้ำพุ และโครงการธรรมรักษ์แห่งที่ 2 อ.หนองม่วง ก็ได้รับยาต้านไวรัสจากโรงพยาบาลลพบุรีอยู่แล้ว และผู้ที่มีอาการดีขึ้นก็ควรที่จะกลับบ้าน เพื่อไปดูแลตัวเองไม่ต้องมาอยู่ที่วัด และหากต้องการรักษาต่อที่ไหนก็ได้ที่เป็นหน่วยงานของรัฐดูแลสามารถรักษาได้หมด
ในปัจจุบันการเป็นเอดส์รักษาได้ วัดต้องหยุดการโฆษณาเป็นเอดส์แล้วตายเป็นเหตุที่จะให้การโฆษณานี้ มีคนนำเงินมาช่วย เพราะในขณะนี้ เอสด์ รักษาได้โดยได้รับยาจากสาธารณสุข และขอให้สังคมยอมรับผู้ติดเชื้อ เอสไอวี ว่าสามารถอยู่ร่วมกัน และใช้ชีวิต อย่างปกติ บางคนผู้ติดเชื้ออาจมีสุขภาพดีกว่า คนที่ไม่ติดเชื้อก็มี เพราะผู้ติดเชื้อ จะต้องไปตรวจหาหมอบ่าย ๆ เมื่อเป็นโรงอะไรขึ้นก็จะรู้แต่เริ่มรักษาได้ทัน ซึ่งก็ผิดกว่าคนที่ไม่ติดเชื้อ ไม่เคยไปหาหมอตรวจ เมื่อมีอาการก็เป็นหนักแล้ว ก็มีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าผู้ติดเชื้อเอสไอวี
ขณะเดียวกัน เวลา 13.00 น. ที่วัดพระบาทน้ำพุ กลุ่มมูลนิธิแท็กซี่กรุงเทพมหานคร นำโดยนายฤทธิชัย เศษเพ็ง ได้นำกระปุก “แท็กซี่อุ้มบุญ” ที่ทำขึ้นเอง มามอบเงินบริจาค 18,950 บาทให้กับวัด โดยยืนยันว่าโครงการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีข่าวผลประโยชน์ 70:30 พร้อมยืนยันว่า โครงการของพวกตนนั้นจะนำเอาเงินมาถวายวัดทุกเดือน แต่ไม่มากนัก เดือนนึงหมื่นกว่าบาทเท่านั้น บอกก่อนว่าโครงการที่พวกตนทำขึ้นมานี้ไม่เกี่ยวกับกลุ่มแท็กซี่ที่เป็นข่าว ไม่มีผลประโยชน์กับวัดแต่อย่างใด วันนี้ นำเอากระปุกมาเปิดล็อกกุญแจที่วัดเลย และนำมอบให้กับห้องบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุเลย แต่หลังจากนี้ก็ขอกยุดโครงการไว้ก่อน