จันทบุรี - ประชุม RBC สมัยวิสามัญ ส่วนภูมิภาคระหว่างไทย-กัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี เห็นพ้องสร้างความเชื่อมั่น ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ให้ความสำคัญเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
วันนี้ ( 25 ส.ค.) กองบัญชาป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ร่วมกับ ภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก กัมพูชา จัดการประชุมหารือความร่วมมือส่วนภูมิภาค หรือ RBC สมัยวิสามัญ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยมี พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เป็นประธานฝ่ายไทย
และมี พล.ท.แอ๊ก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก กัมพูชา และผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายเข้า เพื่อรับทราบผลการหารือของคณะทำงานกองเลขานุการ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดไพลิน ราชอาณาจักรกัมพูชา
โดยที่ประชุมได้ยืนยันคำมั่นสัญญาในการดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้ โดยทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องที่จะส่งเสริมการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอทุกระดับ และความเชื่อมั่นร่วมกัน ประกอบด้วย
1. ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้มีขึ้นในการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025
2. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอระหว่างภูมิภาคทหารและหน่วยทหารตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่าย และมุ่งแก้ไขปัญหาทั้งหมดด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการปะทะ โดยทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มพูนการสื่อสารในทุกระดับ เพื่อสร้างความไว้วางใจ และส่งเสริมความเป็นมิตรที่ดี
3. ทั้งสองฝ่ายยังให้คำมั่นว่าจะละเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความตึงเครียดหรือสร้างกระแสความไม่พอใจในสังคม และจะร่วมกันหามาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างสันติ
4. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่ขยายขอบเขตหรือเพิ่มความรุนแรงของข้อพิพาท รวมถึงจะละเว้นจากการดำเนินกิจกรรมใด ๆ ที่อาจเป็นการยั่วยุให้สถานการณ์บานปลายหรือทวีความตึงเครียดมากขึ้น
สอดคล้องกับข้อตกลงการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายที่ได้ตกลงไว้ ตั้งแต่เวลา 24.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 28 ก.ค. 2025 และการประชุม GBC สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ม 2025 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมบรรยากาศแห่งความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย
และ 5. ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงแรงขับเคลื่อนเชิงบวกและความก้าวหน้าที่บรรลุขึ้น ผ่านการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อกลับคืนสู่ภาวะปกติ
ส่วนมาตรการความร่วมมือภาคปฏิบัติต่อไปประกอบด้วย
1. ทั้งสองฝ่ายยืนยันถึงความสำคัญของการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม และเห็นพ้องที่จะส่งเรื่องนี้ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ GBC เข้าสู่การประชุม GBC ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน
2. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการที่จะจัดตั้ง “กลุ่มประสานงาน (CG)” เพื่อเสริมสร้างการสื่อสารในทุกระดับ รวมถึงระหว่างผู้บังคับบัญชา คณะทำงานประสานงานชายแดน กองกำลังประจำการในพื้นที่ชายแดน และหน่วยปฏิบัติการตามแนวชายแดนกัมพูชา – ไทย
โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีและหลีกเลี่ยงการปะทะ ทั้งสองฝ่ายยังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “คณะกรรมการชายแดนระดับตำบล (TBC)” ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐและเอกชน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วน รายละเอียดจะถูกหารือในการประชุม RBC ครั้งถัดไป
และในระหว่างที่จะมีการจัดตั้ง CG และ TBC ผู้บังคับบัญชาหน่วยเฉพาะกิจชายแดนจากทั้งสองฝ่ายจะประชุมกันเป็นรายสัปดาห์ หรือเมื่อเหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่รับผิดชอบของตน
3. ทั้งสองฝ่ายยืนยันความตั้งใจที่จะร่วมมือและประสานงานกันในการต่อต้านและป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ อาทิ การดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (การหลอกลวงออนไลน์), การค้ายาเสพติด, การค้ามนุษย์, การลักลอบค้าอาวุธ และกิจกรรมอาชญากรรมข้ามพรมแดนอื่น ๆ
โดยทั้งสองฝ่ายจะสำรวจแนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมผ่านกลไกความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว ประเด็นเหล่านี้ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ GBC ควรถูกหยิบยกขึ้นหารือในการประชุม GBC ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน
อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ครั้งต่อไป กำหนดจัดขึ้น ภายในหนึ่งเดือนหลังจากการประชุมครั้งนี้ โดยมี ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ