ศูนย์ข่าวศรีราชา- กองทัพเรือ รับมอบปืนใหญ่ขนาด 155 มม.แบบอัตราจรล้อยาง (ATMG) จำนวน 6 กระบอก เสริมเขี้ยวเล็บหน่วยรบนาวิกโยธิน ทั้งยังเป็นการจัดหายุทโธปกรณ์หลักที่สำคัญในการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
วันนี้ (21 ส.ค.) พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบหมายให้ พลเรือเอก ณัฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนประธานในพิธีรับมอบปืนใหญ่สนาม ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตราจรล้อยาง (ATMG) จำนวน 6 กระบอก จากศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร กระทรวงกลาโหม ณ หน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยมี พลโท ประจักรา วิไลเนตร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เป็นผู้ส่งมอบ
และผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้ส่งมอบต่อให้กับ พลเรือตรี ทวี วงศ์วาน รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เพื่อเข้าประจำการยังหน่วยใช้ในราชการ
ขณะที่ พลเรือโท ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ และประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร หรือ 52 คาลิเบอร์ แบบอัตราจรล้อยาง (ATMG) เผยว่าการจัดหาในครั้งนี้เป็นการผูกพันงบประมาณ ระหว่างปีงบประมาณ 2566 -2568 รวม 3 ปี โดยให้ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เป็นหน่วยจัดหา และเบิกจ่ายงบประมาณจากทางกองทัพเรือ ในวงเงิน 929,486,100 บาท
ประกอบด้วยปืนใหญ่ จำนวน 6 กระบอก สำหรับ 1 กองร้อย ระบบควบคุมการยิงอัตโนมัติ ระบบเรดาร์ตรวจสภาพอากาศ อะไหล่ พร้อมอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งได้ดำเนินการผลิตในประเทศไทย โดยศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธฯ ร่วมกับ บริษัทจากประเทศอิสราเอล บูรณาการระบบ ATMOS เข้ากับรถบรรทุกทาทา 6×6 จากสาธารณรัฐเช็ก มีระยะการยิงไกลกว่า 40 กิโลเมตร อัตราการยิง 6 นัดต่อนาที
สามารถบรรจุกระสุนพร้อมยิง 18 นัด มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง มีพลประจําปืน 6 นาย และมีระยะปฎิบัติการไกล 400 กิโลเมตร ถือเป็นยุทโธปกรณ์ที่สำคัญด้านความมั่นคง และเป็นความก้าวหน้าของประเทศไทย ในการพึ่งพาตนเอง ด้านยุทโธปกรณ์
ด้าน พลเรือเอก ณัฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เผยว่าการจัดหาอาวุธปืนใหญ่ เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ด้านการวิจัยและพัฒนา โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างให้เกิดการเรียนรู้ ต่อยอด และสร้างนวัตกรรมของผลงานวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ของทหารให้ตรงกับความต้องการของกองทัพเรือ และหน่วยที่ใช้งาน มีมาตรฐาน นำไปผลิตใช้ในราชการ ส่งเสริมในเชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
อีกทั้งยังสนับสนุนการเสริมสร้างกำลังรบหลักของกองทัพเรือ และการจัดหายุทโธปกรณ์หลักที่สำคัญ ในการพึ่งพาตนเอง ที่จะช่วยให้กองทัพเรือมีกำลังรบที่ทันสมัย และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ