ปราจีนบุรี- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี โชว์หลักเขตแดนที่ 50 โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่กรมศิลปากร ไทยรับมอบจากทายาท พลเอก มังกร พรหมโยธี ให้ดูแลรักษาเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติสู่คนรุ่นหลัง
น.ส.วัชรี ชมภู ผู้อำนวยการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าชมหลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา ขนาดกว้าง 40 เซ็นติเมตร หนา 40 เซ็นติเมตร สูง 123 เซ็นติเมตร ซึ่งสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ที่ได้รับมอบมาจากทายาทของ พลเอก มังกร พรหมโยธี เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2559 และได้ส่งมอบให้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2564
ทั้งนี้ หลักเขตแดนกรุงสยาม – กัมพูชา เป็นการปักปันเขตแดนระหว่างกรุงสยามและกัมพูชาฝรั่งเศส ปี พ.ศ. 2451 – 2452 ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นหลักปูนซีเมนต์สี่เหลี่ยม ปลายตัดแหลม มีข้อความ 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย เขมร อังกฤษ และฝรั่งเศส ปรากฏอยู่ทั้ง 4 ด้านและมีจำนวน 73 หลัก
เริ่มต้นหลักที่ 1 ที่ บริเวณช่องเกล หรือช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ ไปทางทิศตะวันตกตามแนวเทือกเขาบรรทัดลงไปทางทิศใต้ จนกระทั่งสิ้นสุดลงที่หลักที่ 73 บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด กับบ้านจามเยียม จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา
ปัจจุบันหลักเขตเหล่านี้มีอายุ 117 ปี นับจากปีที่เริ่มการปักปันเขตแดน
โดยหลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา เดิมตั้งอยู่ที่ด่านปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2483 หลังกองทัพฝรั่งเศสเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดนไทย ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ จ.นครพนม วันที่ 7 ม.ค. 2484 ไทยจึงประกาศสงครามกับฝรั่งเศส
มีแม่ทัพคือ พลเอก มังกร พรหมโยธี ซึ่งทัพไทยเปิดแนวรบโดยกองพลพายัพ กองทัพอีสาน กองทัพบูรพา กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ร่วมกันโจมตีอินโดจีนของฝรั่งเศสในทุก ๆ ด้าน
กระทั่งในที่สุดฝ่ายไทยมีท่าทีว่าจะชนะเด็ดขาด ญี่ปุ่นซึ่งมีฐานทัพอยู่ในอินโดจีน จึงเสนอตัวเข้าไกล่เกลี่ยด้วยเกรงว่าหากไทยชนะจะเป็นอุปสรรคต่อการที่ญี่ปุ่น และจะรุกรานลงใต้ ผลจากการไกล่เกลี่ย ฝรั่งเศส ได้ยินยอมยกดินแดนที่เคยยึดไปจากไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 คืนให้ฝ่ายไทย
และได้มีการลงนามในอนุสัญญา 3 ฝ่ายระหว่างไทย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2484 หลักเขตแดนไทย-กัมพูชาที่อรัญประเทศ จึงถูกยกเลิกหลักเขตหมายเลข 49 และ 50 ถูกถอนออก
จากการรบในสงครามอินโดจีนครั้งนั้น ทำให้ไทยสูญเสียกำลังพลทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน จำนวน 59 คน ต่อมาภายหลังรัฐบาลไทยได้สร้างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเชิดชูเกียรติ เทิดทูนวีรกรรมของผู้สละชีวิตในการปกป้องประเทศ
สำหรับหลักเขตหมายเลข 49 ได้มอบไว้แก่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ส่วนหลักเขตหมายเลข 50 พลเอก มังกร พรหมโยธี ได้รักษาไว้และตกทอดสู่ทายาท
ภายหลังทายาทพลเอกมังกร พรหมโยธี ประกอบ คุณเจตกำจร พรหมโยธี คุณกำจรเดช พรหมโยธี คุณอภิภู พรหมโยธี และคุณองคฤทธิ์ พรหมโยธี ได้มอบไว้ให้กรมศิลปากรเพื่อดูแลรักษา และเป็นสาธารณประโยชน์ในเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติไทยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวแก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป