เพชรบุรี – รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ติดตามคดีบุกรุกพื้นที่ป่าและราชพัสดุ 4,000 ไร่ สั่งบูรณาการทุกหน่วยงานเร่งดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ ย้ำป่ามรดกโลกต้องคงอยู่ให้ลูกหลานไทย
วันนี้ (9 ส.ค.) นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตามคำสั่งนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ เพื่อตรวจสอบและติดตามคดีบุกรุกป่าในพื้นที่ตำบลหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายนพพร ประทุมเหง่า ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
การตรวจสอบพบว่า พื้นที่บุกรุกครอบคลุมทั้งเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพื้นที่ราชพัสดุ (ปข.605) รวมประมาณ 4,000 ไร่ บางส่วนมีผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ผ่านการซื้อทอดตลาดจากธนาคาร ขณะที่บางพื้นที่มีการใช้รถแบ็คโฮขุดหน้าดินโดยอ้างได้รับอนุญาตจาก อบต.หนองพลับ แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบเอกสารอนุญาตถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีผู้ครอบครองที่ดิน 15 ราย พร้อมส่งดำเนินคดีที่ สภ.หนองพลับแล้ว
นายวีระ กล่าวว่า ได้สั่งการให้บูรณาการทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หน่วยทหาร และกรมธนารักษ์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงเร่งตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ นส.3ก. ที่เชื่อว่าออกโดยไม่ชอบ เพื่อส่งเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนสิทธิ์ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
“ผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ไม่สามารถปล่อยให้สูญเสียได้ ต้องคงอยู่ให้ลูกหลานไทยต่อไป การบังคับใช้กฎหมายต้องรวดเร็วและเด็ดขาด” รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว
นอกจากนี้ หากพบสิ่งปลูกสร้างบุกรุก เจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 รื้อถอนทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งศาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม