เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งทั้ง 2 ชาติเห็นพร้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี สรุปสถานการณ์ชายแดนและความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนที่้เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 15 วันหลังมีการปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชาในช่วง 15 วันที่ผ่านมาว่าหลังเกิดเหตุการณ์ กองทัพเรือ ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ใน จ.จันทบุรีอย่างเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย
โดยมีแรงงานเขมรกว่า 200,000 คน ได้ทยอยเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง สร้างความหนาแน่นบริเวณจุดผ่านแดนถาวรทั้งสองแห่งของ จ.จันทบุรี ไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จนเจ้าหน้าที่ต้องผนึกกำลังจัดระเบียบและอำนวยความสะดวกอย่างเข้มข้น
ท่ามกลางสถานการข่าวลือเรื่องการปะทะที่อาจปะทุขึ้นอีกรอบ และข่าวลือเรื่องผู้นำกัมพูชาที่ประกาศตัดสัญชาติ ยึดบ้าน-ยึดที่ดินของชาวเขมรที่ไม่กลับประเทศก่อนวันที่ 10 ส.ค.2568 และโดรนปริศนาที่ข6้นบินก่อกวนทุกคืน
และนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาที่สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าสู่ภาวะตึงเครียดจนกองทัพ ต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นทีีจันทบุรีและตราดโดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชา
กองทัพเรือ ได้เข้ามาเป็นกำลังหลักในการดูแลสถานการณ์ภายใต้การควบคุมของ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในการจัดระเบียบแรงงานชาวเขมร ที่เดินทางกลับประเทศ รวมถึงเหตุการณ์ก่ออาชญากรรมและความไม่สงบอื่นๆ
ขณะที่ในแต่ละวันจะมีแรงงานเขมรจำนวนมหาศาลเดินทางผ่านจุดผ่านแดนทั้ง 2แห่งในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมากว่า 200,000 ราย ส่งผลให้การจราจรโดยรอบติดขัดเป็นบางช่วง และได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ เข้าบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวมทั้งการตรวจสอบเอกสาร และสัมภาระ ไปจนถึงการควบคุมโรค
เนื่องจากแรงงานเขมรเดินทางมาจากหลายจังหวัดในประเทศไทย เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
โดยเหตุผลหลักที่ชาวเขมร ต้องรีบเดินทางกลับภูมิลำเนาคือความกังวลจากข่าวสารที่ได้รับจากครอบครัว แรงงานหลายรายบอกว่า พ่อแม่พี่น้องในกัมพูชาโทรศัพท์มาหาและส่งข่าวให้รีบกลับประเทศ โดยอ้างถึง สถานการณ์ความไม่สงบ และ ความกังวลว่าจะได้รับอันตราย
นอกจากนี้ยังมีแรงงานบางส่วนที่ได้รับคำสั่งให้กลับไปเตรียมพร้อมทำหลุมบังเกอร์หรือหลุมหลบภัย เนื่องจากมีการอ้างว่าอาจจะมีการสู้รบที่รุนแรงกว่าเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง
และเมื่อถามถึงความรู้สึกว่า หากต้องถูกเรียกตัวไปเป็นทหาร แรงงานรายหนึ่งตอบสั้นๆ ว่า “กลัว” แต่ก็ย้ำว่าหากสถานการณ์สงบลงและประเทศไทยเปิดให้เข้ามาทำงานได้อีกครั้ง ก็ยินดีที่จะกลับมาทำงานก่อสร้างเหมือนเดิม เพราะรู้สึกประทับใจในน้ำใจและความมีอัธยาศัยดีของคนไทย
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานความมั่นคงจันทบุรี ยืนยันว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์ปะทะหรือความรุนแรงใดๆ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ส่วนกรณีที่มีการอ้างถึงว่ามีลูกปืนตกนั้น น่าจะเป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แรงงานรีบกลับประเทศโดยเร็วเท่านั้น