ศูนย์ข่าวศรีราชา- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เตรียมจัดงาน "วันสถาปนาวิทยาเขตศรีราชาครบรอบ 30 ปี" และงาน"เกษตรศรีราชาแฟร์" ครั้งที่ 19 ประจำปี 2568 วันที่ 22-31ส.ค.นี้
วันนี้ (6 ส.ค.) รองศาสตราจารย์ ดร. สถาพร เชื้อเพ็ง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน "วันสถาปนาวิทยาเขตศรีราชาครบรอบ 30 ปี" และงาน"เกษตรศรีราชาแฟร์" ครั้งที่ 19 ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสีเขียวเพื่อความยั่งยืนแห่งอนาคต (Green Innovation for a Sustainable Future)”
โดยมี ผู้ช่วยอธิการบดี, คณะอาจารย์, นิสิต, ตัวแทนชุมชน และสื่อมวลชนในพื้นที่เข้าร่วม ณ ห้องเธียเตอร์ อาคาร 14 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จ.ชลบุรี
งานดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22–31 ส.ค.นี้ โดยมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อส่งเสริมบทบาทของวิทยาเขตในฐานะศูนย์กลางความรู้ด้านเกษตรกรรม เทคโนโลยี อุตสาหกรรมและนวัตกรรมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งยังเป็นเวทีเชื่อมโยงมหาวิทยาลัย ชุมชน ท้องถิ่น องค์การภาครัฐและภาคธุรกิจในการแสดงศักยภาพการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ
กิจกรรมภายในงานมีทั้งการจัดนิทรรศการผลงานวิจัย, การแข่งขันตอบปัญหา ,การประชุมวิชาการนานาชาติ อีกทั้งยังมีการแสดงผลงานวิจัย นวัตกรรม การแสดงผลงานของนิสิต และผลิตภัณฑ์จากโครงการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย รวมถึงสินค้าทางการเกษตร ,เครื่องมือการเกษตร .สัตว์เลี้ยง
และการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อ ,สินค้าอุปโภคบริโภค ,สินค้าจากนิสิต และสินค้าจากชุมชน มากกว่า 400 ร้านค้า โดยในวันที่ 26 ส.ค. ยังจะมีการประชุมวิชาการนานาชาติ ครั้งที่ 7 ในหัวข้อ "นวัตกรรมสีเขียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน"
นอกจากนั้นยังจะมีกิจกรรม OPEN HOUSE เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และผู้ปกครองที่สนใจได้เข้าเรียนรู้และเยี่ยมชมทั้ง 5 คณะ ประกอบด้วย คณะวิทยาการจัดการ , คณะวิทยาศาสตร์ศรีราชา , คณะเศรษฐศาสตร์ศรีราชา, คณะวิศวกรรมศาสตร์ศรีราชา และคณะพาณิชนาวีนานาชาติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อ รวมทั้งร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย
รองศาสตราจารย์ ดร. สถาพร เผยเพิ่มเติมว่าไฮไลต์สำคัญของงานเฉลิมฉลองวิทยาเขตศรีราชา ครบรอบ 30ปี จะมีทั้งการแสดงของนิสิตนักศึกษา การปาฐกถาพิเศษ และการเสวนาในส่วนพันธมิตรที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิทยาเขต ตลอดจนประชาชนและชุมชนโดยรอบ
รวมทั้งกิจกรรม OPEN HOUSE การแข่งขันตอบปัญหาทางวิชาการ
และจะมีชาวต่างชาติและคณาจารย์ต่างๆ มาร่วมเสนองานวิจัยต่างๆ
ส่วนงานเกษตรแฟร์ จะมีการนำเสนอผลงานทั้งของนิสิตและคณาจารย์รวมทั้งชุมชนและภาคีเครือข่ายทางการเกษตรที่จะนำเสนอนวัตกรรมทางการเกษตร รวมทั้งการออกร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆที่ในปีนี้จะมีผู้ออกร้านเพิ่มขึ้นอีก 100ร้านค้า จากเดิมที่มีประมาณ 400 ร้านค้าด้วย
