xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)หนุ่มเขมรยอมรับ! เป็นทหาร BHQ จริง แต่อ้างลาออกแล้ว จนท.พบพิรุธอื้อ เร่งสอบเชิงลึกหวั่นเป็นสายลับกัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - หนุ่มเขมรถูก ตร.จับกุมยอมรับ! เคยเป็นทหารหน่วย BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซนจริง แต่อ้างลาออกหลายปีแล้วมาอยู่กับภรรยาชาวไทย อ.กระสัง 1 ปี จนท.ไม่ปักใจเชื่อพบพิรุธใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ เพิ่งลักลอบเข้าไทยเมื่อ กลาง ก.ค.นี้ ตรวจสอบมือถือมีภาพแต่งกายทหารและถืออาวุธสงคราม เร่งตรวจสอบเชิงลึก หวั่นแฝงตัวเป็นสายลับส่งข้อมูลความมั่นคงให้กัมพูชาเบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีอาวุธ และลอบเข้าเมือง



ความคืบหน้ากรณีตำรวจ สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จับกุม นายวิน อายุ 36 ปี ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง พร้อมอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ เครื่องแบบทหาร เสื้อกั๊ก และหมวกตราสัญลักษณ์ BHQ ซึ่งเป็นหน่วยทหารกัมพูชา องครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุนเซน ได้เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) และควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.กระสังนั้น


ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค. 68) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันสอบปากคำชายชาวกัมพูชาดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งจากการสอบสวนนายวินอ้างว่า เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ได้ลาออกมาหลายปีแล้ว ปัจจุบันมีภรรยาเป็นคนไทย และทำงานอยู่ในไทยมาหลายปีแล้ว และมาอยู่ในพื้นที่ อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านภรรยาได้ประมาณ 1 ปี

ทั้งอ้างว่าถูกสวมชื่อ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ทั้งชื่อทางทหาร ชื่อในพาสปอร์ต ชื่อในบัตรประชาชน และชื่อในบัตรที่ทำงาน ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่ามีการจ่ายเงินให้นายหน้าชาวกัมพูชาที่พาเข้า 4,000 บาท

แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของหนุ่มกัมพูชาคนดังกล่าว เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทยไปให้ฝั่งกัมพูชา เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลพบเพิ่งลักลอบเดินทางเข้ามาในไทยช่วงกลางเดือน ก.ค. 68 ที่ผ่านมา และ จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายการแต่งกายทหารและถืออาวุธสงคราม แต่ก็ต้องตรวจสอบในเชิงลึกอย่างละเอียดว่ามีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับด้านความมั่นคงของฝ่ายไทยไปให้กัมพูชาหรือไม่

เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” แต่ถ้าในมือถือมีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับด้านความมั่นคงของไทยไปให้กัมพูชาหรือกระทำการใด ก็จะดำเนินคดีตามมาตรา 112 , 113 ต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น