นครปฐม - ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงปิดคดีเหตุคานปูนพระราม 2 ถล่ม แจ้งข้อหาอาญาหนัก 4 กลุ่มทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ถือเป็นคดีแรกที่ดำเนินคดีตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ชูเป็นคดีตัวอย่างสร้างมาตรฐานใหม่ความปลอดภัยงานก่อสร้าง
วันนี้ ( 5 ส.ค.) พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 มอบหมายให้ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 ฝ่ายกฎหมายและสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีคานปูนถล่มบนถนนพระราม 2 ที่ห้องโถง อาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 จากโครงการก่อสร้างถนนยกระดับบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายบางขุนเทียน–บ้านแพ้ว ตอนที่ 1 บริเวณ กม.21+600 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งเกิดเหตุคานปูนและเครนก่อสร้างถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย (คนไทย 2 ราย ต่างด้าว 4 ราย) และบาดเจ็บรวม 9 ราย
พล.ต.ต.อุทัย เผยว่า ผลการสอบสวนสรุปชัดเจน แบ่งการดำเนินคดีเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มที่ 1: อาญาบุคคลธรรมดา ข้อหา: กระทำโดยประมาทให้ผู้อื่นเสียชีวิต, ฝ่าฝืนหลักวิชาชีพก่อสร้าง
ผู้ถูกดำเนินคดี คือ วิศวกรควบคุมงาน บริษัท อุดมศักดิ์ เชียงใหม่ จำกัด นายช่างควบคุมงานจากกรมทางหลวง หัวหน้าคนงาน บริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชั่น จำกัด
กลุ่มที่ 2: อาญานิติบุคคล ใน ข้อหา: ความผิดอาญาในฐานะนิติบุคคล กระทำโดยประมาท, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.อาชีวอนามัย, กฎหมายแรงงานต่างด้าว ผู้ถูกดำเนินคดีคือ บริษัท อุดมศักดิ์ เชียงใหม่ จำกัด (ผู้รับจ้างหลัก) บริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชั่น จำกัด (ผู้รับจ้างช่วง)
กลุ่มที่ 3: เจ้าหน้าที่รัฐ ใน ข้อหา: ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 แนวทางการดำเนินคดี ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ผู้เกี่ยวข้อง: หัวหน้าโครงการควบคุมงานของกรมทางหลวง
กลุ่มที่ 4: ผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ม.157 ประกอบ ม.86 แนวทาง: ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ผู้เกี่ยวข้อง โดย บริษัทผู้รับเหมา 2 รายเดียวกับกลุ่มที่ 2
พล.ต.ต.อุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่มีการดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุม ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยมีหลักฐานทางวิชาการจากวิศวกรรมสถานฯ และหน่วยงานรัฐร่วมวิเคราะห์อย่างเข้มข้น เพื่อให้คดีนี้เป็น “คดีตัวอย่าง” ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยงานก่อสร้างในไทย
“ที่ผ่านมา คดีลักษณะนี้มักสิ้นสุดแค่กับผู้ตายหรือผู้ประมาทหน้างาน แต่ครั้งนี้เราเอาผิดตั้งแต่ผู้ออกแบบ ควบคุม ผู้รับเหมา ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเลย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก” พล.ต.ต.อุทัย กล่าว
ทั้งนี้ หากญาติผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บไม่พึงพอใจในส่วนของการเยียวยา สามารถใช้สิทธิฟ้องร้องทางแพ่งเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่ง