xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการตราดจี้รัฐออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบแนวชายแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ตราด -
ผู้ประกอบการตราด จี้รัฐเร่งออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บี้สถาบันการเงินลดอัตราดอกเบี้ย-ชะลอจ่ายสินเชื่อ ชดเชยความเสียหายทางการเกษตร ชาวบ้านขาดรายได้จากการอพยพ ไม่เว้นแม้แต่แรงงาน

จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จนทำให้ฝ่ายความมั่นคงต้องประกาศปิดจุดผ่านแดนถาวรทั้งทางบกและทางทะเล รวมทั้งจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนการค้าทุกจุดที่มีพื้นที่ติดต่อกันระหว่างไทยและกัมพูชา จนกระทบต่อเศรษฐกิจบริเวณชายแดน และการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดตราดและกัมพูชา ที่เคยมีมูลค่ามากกว่า 3.4 หมื่นล้านบาทต่อปี และยังมีการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันมากกว่า 1 แสนคนต่อปีนั้น

วันนี้ ( 4 ก.ค.) นายพิพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก 2 เผยว่าแม้จะเกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ในพื้นที่ชายแดนอีสานใต้ จนกระทบต่อความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับแนวชายแดนด้าน จ.ตราด และ จ.เกาะกง รวมถึงโพธิสัตว์ของกัมพูชาแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน

จึงอยากจะให้ภาครัฐใช้กลไกการประสานงานในระดับท้องถิ่น เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนายอำเภอในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ เพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหาในระดับล่างก่อน ขยับขึ้นสู่การเจรจาในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนทั้งสองฝั่ง

นายพิพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าชายแดนไทย-กัมพูชา
เช่นเดียวกับ นายสุทธิลักษณ์ คุ้มครองรักษ์ ประธานอาวุโสของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด บอกว่าปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการของ จ.ตราด หลายด้าน จึงอยากให้รัฐออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน 4 ด้านคือ 1.การกำหนดมาตรการด้านสินเชื่อ โดยขอให้สถาบันการเงินพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% และให้ผ่อนชำระได้นาน 12 เดือนแรก

2. เงินชดเชยด้านความเสียหาย โดยขอเงินเยียวยาผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ที่เสียหายจากการอพยพในอัตราไร่ละ 2,000-3,000 บาท

3.มาตรการภาษี โดยขอให้ กรมสรรพากร ยกเว้นค่าปรับสำหรับผู้ที่ยื่นประมาณการกำไรเพื่อเสียภาษีนิติบุคคลผิดพลาด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่สามารถประเมินรายได้ล่วงหน้าได้

และ4. เงินช่วยเหลือครัวเรือน โดยขอรัฐบาลอุดหนุนเงินเยียวยาครัวเรือนละ 10,000 บาท สำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพ และขอให้เพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกคนละ 100 บาท เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน รวมถึงขอมาตรการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวที่ซบเซาอย่างหนักด้วยเช่นกัน



“ สิ่งที่รัฐควรจะเร่งดำเนินการคือ การกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการจัดหาเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อเสริมสภาพคล่องวงเงิน 1-10 ล้านบาท โดยปลอดดอกเบี้ยนาน 6-12 เดือน เพราะวันนี้ ผู้ประกอบธุรกิจของ จ.ตราดทั้งค้าชายแดน และการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมาก ยิ่งความขัดแย้งยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติและการเปิดด่านการค้าที่ยังไม่รู้ว่าจะยาวแค่ไหนก็ยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้น“นายสุทธิลักษณ์ กล่าว

นายสุทธิลักษณ์ คุ้มครองรักษ์ ประธานอาวุโสของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด
ด้าน นายทศพล เครือลอย ผู้ผลิตและส่งออกน้ำปลา บอกว่าแม้จะมีการปิดด่านการค้ามานานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่รัฐบาลรวมถึงหน่วยงานภาครัฐยังไม่มีมาตรการเยียวยาที่ชัดเจน สวนทางกับความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการค้าชายแดนที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 80-100 ล้านบาทต่อวัน ไม่นับรวมภาคธุรกิจทั้งรายเล็กและรายย่อยที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

“ วันนี้นอกจากผู้ประกอบการจะประสบปัญหาสินค้าค้างสต๊อก เพราะไม่สามารถส่งออกได้แล้ว ยังแรงงานที่ได้รับผลกระทบ อีกย่างน้อย 600 คน ซึ่งเป็นแรงงานในระบบที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานการขนส่งและการค้าชายแดน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งยื่นมือช่วยเหลือโดยด่วนเพราะการหางานใหม่ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ยากลำบาก “กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น