xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายความมั่นคงจันทบุรียันข่าวจับสายลับเขมรลอบเข้าไทยทางทะเลโป่งน้ำร้อน ไม่เป็นความจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จันทบุรี –ตำรวจ-ฝ่ายความมั่นคงจันทบุรี ยันข่าวจับสายลับเขมรลอบเข้าไทยทางทะเลโป่งน้ำร้อนไม่เป็นความจริง ชี้โป่งน้ำร้อนไม่มีพื้นที่ติดทะเล ส่วนชาวเขมรเป็นคนสติไม่สมประกอบที่ขึ้นทะเบียนแรงงานในกิจการประมงทะเลที่ระยอง วอน ปชช.ติดตามข้อมูลในแหล่งที่เชื่อถือได้ ป้องกันสร้างความสับสนในสังคม

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการจับกุมสายลับชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าประเทศไทยทางชายทะเล อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พร้อมนำโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อทำการชี้เป้าโจมตีกองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น

ล่าสุดในวันนี้ ( 4 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจันทบุรี ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบยืนยันว่าข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนหลายประการ อาทิ อ.โป่งน้ำร้อน ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับชายทะเล จึงไม่สามารถใช้เป็นเส้นทางลักลอบเข้าเมืองทางทะเลได้ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่มีการระบุชื่อ นายซุน เฮ็ม (Mr. Sun Hem) สัญชาติกัมพูชา จากการตรวจสอบในระบบพบว่าได้เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา

และได้ดำเนินการตรวจลงตราเพื่อขอวีซ่าแรงงาน ณ จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2568 โดยข้อมูลการเดินทางแสดงให้เห็นว่าเป็นการเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนภาพโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกนำเสนอในข่าว เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นภาพจากเหตุการณ์การจับกุมสายลับชาวเขมรในพื้นที่ จ.สระแก้ว และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับ จ.จันทบุรี แต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นสายลับหรือมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง


ขณะที่ พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เผยยืนยันว่า ชายชาวกัมพูชาที่ปรากฏในข่าวชื่อ นายซุน เฮ็ม (Chhum Hem) อายุ 37 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2567 โดยถูกต้องตามกฎหมายและได้ขึ้นทะเบียนแรงงานในกิจการประมงทะเล โดยได้รับการตรวจลงตราเข้าที่ จ.ระยอง เพื่อทำงานเป็นลูกเรือในเรือประมง

ซึ่งผู้จัดการเรือได้ให้การว่า นายซุน เฮ็ม มีอาการสติไม่ดี และได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุปีนเสากระโดงเรือและยืนถือมีดอยู่บริเวณกาบเรือขณะที่เรืออยู่ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ควบคุมเรือจึงได้นำเรือเข้าฝั่งเพื่อที่จะส่งตัวนายซุน เฮ็ม กลับไปยัง จ.ระยองโดยทางรถยนต์ แต่นาย ซุน เฮ็ม ไม่ยอมไปด้วยและหลบหนีออกมาจากเรือ

กระทั่ง 28 ก.ค. 2568 นายซุน เฮ็ม ได้ก่อเหตุลักลอบเข้าไปในบ้านของชาวบ้านพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จับกุมและควบคุมตัวไว้ จนเมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 2 ส.ค. 2568 นายซุน เฮ็ม ได้รับการปล่อยตัว

และได้ก่อเหตุบุกรุกเข้าไปในพื้นที่กองบิน 5 กองทัพอากาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณเรียบชายทะเล ในพฤติการณ์นั่งสูบยาเส้นอยู่ภายในบริเวณลานปูน จึงถูกเจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัวและส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ตามที่ปรากฏในข่าว


“ขอเรียนว่ากรณีดังกล่าวข้างต้นไม่มีความเกี่ยวข้องและเป็นคนละกรณีกับการตรวจพบโดรนขึ้นบินบริเวณโดยรอบพื้นที่กองบิน 5 กองทัพอากาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2568 และมิใช่กรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี แต่อย่างใด”

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ยังขอความร่วมมือประชาชนในการติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และไม่ส่งต่อข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกในสังคม.




กำลังโหลดความคิดเห็น