xs
xsm
sm
md
lg

สคทช.นัดประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจ 8 ส.ค.นี้ เดินหน้าแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนนิคม-อุทยานฯ กาญจนบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี – คณะทำงานเฉพาะกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นัดประชุมครั้งที่ 2 วันที่ 8 ส.ค.นี้ ที่เขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร 1,302 ครัวเรือน ในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างนิคมสหกรณ์กับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

วันนี้ (2 ส.ค.) นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาทับซ้อนที่ดินอยู่อาศัยและที่ทำกินของประชาชนในเขตพื้นที่ทหาร เปิดเผยว่า ภายหลัง นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง “คณะทำงานเฉพาะกิจ” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมทับซ้อนที่ดินที่รัฐเคยจัดสรรให้มาก่อนหน้านี้

พื้นที่ปัญหาดังกล่าวมีราษฎรได้รับผลกระทบ 1,302 ครัวเรือน ภายหลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างเขื่อนวชิราลงกรณ (เดิมคือเขื่อนเขาแหลม) และได้จัดสรรที่ดินครอบครัวละ 15 ไร่ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย 1 ไร่ และที่ดินทำกิน 14 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 42,400 ไร่ ตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งอยู่ในความดูแลของนิคมสหกรณ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2534 พื้นที่ดังกล่าวได้รับการประกาศเป็น “อุทยานแห่งชาติเขาแหลม” ลำดับที่ 67 ครอบคลุมพื้นที่ใน 2 อำเภอ ได้แก่ สังขละบุรี และทองผาภูมิ ทำให้ที่ดินของราษฎรที่อยู่มาก่อน ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์เพื่อทำธุรกรรมหรือพัฒนาใด ๆ ได้ สร้างความเดือดร้อนมายาวนาน

ล่าสุด นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน สคทช. ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ ได้ลงนามหนังสือด่วนที่สุด เชิญประชุมคณะทำงานครั้งที่ 2/2568 ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมเขาแหลม 1 ชั้น 2 อาคารที่ทำการเขื่อนวชิราลงกรณ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ One Map มาตราส่วน 1:4000 และส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ

นายพนมระบุว่า การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหาทางออกอย่างเป็นรูปธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และขอให้คณะทำงานทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง










กำลังโหลดความคิดเห็น