สระแก้ว – ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว แจงข่าวโดรนป่วนสนามบินใน อ.วัฒนานคร เป็นเฟคนิวส์ ชี้มีเพียงซากโดรนเก่าไม่สามารถใช้งานได้ เตือนชาวเน็ตโพสต์ข้อความเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม ผิด พ.ร.บ.คอมฯ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียว่า พบโดรนบินป่วนใกล้สนามบินในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และพบว่ามีการเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเสพสารเสพติดและการสอดแนมในพื้นที่ จนสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุดในวันนี้ ( 1 ส.ค.) พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร พบว่าไม่เป็นความจริง และข้อมูลที่มีการโพสต์ลงโซเชียลเป็นการบิดเบือนข้อมูล หรือ "ข่าวปลอม" (Fake News)
โดยยืนยันว่าในช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกปฏิบัติภารกิจตรวจค้นยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมายแห่งหนึ่งในเขต อ.วัฒนานคร ได้พบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายโดรนตกอยู่ในพงหญ้ากลางทุ่งนา
และจากการตรวจสอบยังพบว่าเป็นโดรนเก่าขนาดเล็ก สภาพชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่พบอุปกรณ์ใด ๆ ที่ใช้สำหรับควบคุมหรือส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิป แบตเตอรี่ หรือกล้องบันทึกภาพ อีกทั้งยังไม่พบพยานหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าโดรนดังกล่าวได้ทำการบินในช่วงเวลาที่ถูกระบุในโซเชียล
" กรณีที่เกิดขึ้นทางฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นร่วมยืนยันว่า ไม่มีภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ตามที่มีการแชร์กันในสื่อสังคมออนไลน์ และขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน และประชาชน ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ข้อมูลใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกหรือเข้าใจผิด"
จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และหลีกเลี่ยงการส่งต่อข่าวที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน..
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00น.วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร และเจ้าหน้าที่ทหารกองบินกำลังบูรพา ได้จับกุม นายพสธร หรือเบส อายุ 18 ปี ชาว อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่ได้ใช้โดรนในการบินสอดแนมในพื้นที่กองบิน3
จากการตรวจสอบยังพบโดรน ยี่ห้อ FOLD DRONE AGES 14+ ระยะการบิน 80-100 เมตร ใช้ย่านความถี่ 2.4GHz ซึ่งเป็นโดรนที่ไม่เหมาะสมกับการใช้ตรวจการทางอากาศ
แต่ข้อมูลโทรศัพท์ไม่พบข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ ที่มีการถ่ายจากโดรน แต่พบการติดต่อซื้อ-ขายยาเสพติดผ่านทางแอปพลิเคชัน เมสเซนเจอร์ และผ่านเบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 0625233611
เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า เป็นการรับจ้างบินเพื่อแลกยาเสพติด เจ้าหน้าที่คาดว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะต้องการทดสอบระบบ Anti Drone ของไทย จึงควบคุมตัวไป สภ.วัฒนานคร เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีการเชื่อมโยงโดรนดังกล่าวเข้ากับคดีเสพยาเสพติดในพื้นที่นั้น เป็นการเชื่อมโยงอย่างไม่มีมูลความจริง และอาจเข้าข่าย บิดเบือนข้อมูล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบที่มาและตัวผู้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว
และหากพบว่ามีเจตนาให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์