อุดรธานี - ปกครองอำเภอเมืองอุดรบุกจับแรงงานกัมพูชา 8 รายลักลอบขายไอศกรีมกลางเมืองอุดร เผยอยากอยู่ไทยเพราะไม่มีรายได้ที่บ้านเกิด ทำงานในเมืองไทยมากว่า 10 ปีหลายจังหวัด ส่วนกรณีสู้รบแนวชายแดนแรงงานกลุ่มนี้บอกว่า “ไม่อยากให้เกิดสงคราม อยากให้สงบสุข ไม่อยากเห็นความสูญเสีย”
วันนี้ (31 ก.ค.) นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในชุมชนดอนอุดม เขตเทศบาลนครอุดรธานี ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี ว่า มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาพักอาศัยรวมกลุ่ม และประกอบอาชีพขายไอศกรีมในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังรับแจ้งจึงมอบหมายให้ นายชาติอาชาไนย ธนถาวรโชติ ปลัดป้องกันอำเภอเมืองอุดรธานี ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กอ.รมน. ตรวจคนเข้าเมือง แรงงาน และจัดหางานจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่งในชุมชนดอนอุดม
จากการตรวจค้นภายในบ้านพบชาวกัมพูชา 8 คน แบ่งเป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน ตรวจสอบภายในบ้านและบริเวณรอบบ้านมีการดัดแปลงพื้นที่ชั้นล่างเป็นที่วางตู้แช่ไอศกรีมประมาณ 50 ตู้ ภายในบรรจุไอศกรีมหลายรสชาติ และยังพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง 7 คัน และรถเข็น 10 คัน เมื่อขอตรวจสอบเอกสารพบว่ามีหนังสือเดินทาง 7 ราย แต่อยู่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และอีก 1 รายไม่มีหนังสือเดินทาง
สอบถามแรงงานกัมพูชากลุ่มนี้ยอมรับว่าเข้ามาทำงานในไทยนานกว่า 10 ปี เคยประกอบอาชีพก่อสร้างในกรุงเทพฯ และนนทบุรี ต่อมาย้ายไปหางานที่จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ไม่มีผู้ว่าจ้าง จึงได้รับคำแนะนำจากคนไทยให้มาทำงานขายไอศกรีมที่อุดรธานี โดยเช่ารถกระบะตู้ทึบในราคา 3,000 บาท เดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา และพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว
แรงงานกลุ่มนี้เปิดเผยอีกว่า ได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่ยังไม่ได้เริ่มขายไอศกรีม เนื่องจากเกรงกลัวถูกจับกุม และยืนยันว่าหากถูกส่งกลับประเทศก็ยินยอม แต่หากเลือกได้ก็อยากอยู่ทำงานเก็บเงินในไทย เพราะหากกลับไปก็ไม่มีรายได้ ต้องไปทำไร่ทำนาที่บ้านเกิด จากการซักถามเพิ่มเติม แรงงานเหล่านี้ติดตามข่าวสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดน แต่ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพียงระบุว่า “ไม่อยากให้เกิดสงคราม อยากให้สงบสุข ไม่อยากเห็นความสูญเสีย”
นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีแรงงานต่างด้าวเช่าบ้านรวมกลุ่มกันทำงานโดยผิดกฎหมาย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยร่วมกันเข้าตรวจสอบ พบแรงงานทั้งหมดไม่มีเอกสารอนุญาตทำงาน และประกอบอาชีพต้องห้ามตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวแรงงานทั้งหมด พร้อมยึดรถจักรยานยนต์พ่วงข้างและรถเข็นไว้เป็นของกลาง และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนดำเนินการผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป