xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือนใจกลางองค์พระฯ! หญิงสวมชุดไทยขับ SUV ทับชายเร่ร่อน ก่อนเดินหาย – เหยื่อหลังหักรอผ่าตัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม – เปิดคลิปวงจรปิดเหตุการณ์สะเทือนใจ หญิงสวมชุดไทยขับรถ SUV พุ่งทับร่างชายเร่ร่อนวัย 63 ปี ที่นั่งอยู่บริเวณลานจอดรถในองค์พระปฐมเจดีย์ ก่อนจะเดินออกจากจุดเกิดเหตุโดยไม่อยู่ดูอาการ ชาวเน็ตจี้ถาม ทำไมไม่ช่วยเหลือทันที ขณะที่โรงพยาบาลนครปฐมเผยผู้บาดเจ็บหลังหัก เตรียมผ่าตัดเร่งด่วน

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 07.00 น. จากภาพวงจรปิดบริเวณ “ประตูฝั่งพระนอน” ซึ่งอยู่ตรงข้ามตลาดโต้รุ่ง พบรถยนต์อีซูซุ มิว-เซเว่น สีบรอนซ์ ทะเบียน กพ 2599 นครปฐม เลี้ยวเข้าประตู ก่อนจะเฉี่ยวชนชายคนหนึ่งที่นั่งพิงกำแพงจนร่างล้มลงกับพื้น จากนั้นล้อรถด้านหน้าซ้ายทับร่างลากไปอีกประมาณ 2-3 เมตร โดยมีเสียงร้องโอดครวญของผู้ได้รับบาดเจ็บดังก้องบริเวณนั้น

หญิงคนขับ ซึ่งแต่งกายด้วยชุดไทย ได้จอดรถบริเวณใกล้เคียง แล้วลงจากรถก่อนจะนิมนต์สามเณรให้มาดูอาการชายที่ถูกรถทับ จากนั้นเดินออกจากประตูวัดไปอย่างใจเย็น ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ที่พบเห็น

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่วัดพร้อมประชาชนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุได้ช่วยกันโทรแจ้งมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม และประสานรถพยาบาลให้เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนนำตัวชายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลนครปฐมเป็นการด่วน

จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าว อายุ 63 ปี เป็นบุคคลเร่ร่อนที่ชาวบ้านเห็นเดินเข้าออกบริเวณองค์พระฯ ได้ประมาณ 7-8 วัน โดยมีร่างกายไม่แข็งแรง ต้องใช้ไม้เท้าพยุงในการเดิน และมักมานั่งพักใกล้ประตูฝั่งพระนอนซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

พยานในพื้นที่ระบุว่า หญิงคนขับน่าจะมองไม่เห็นชายเร่ร่อน เนื่องจากมุมอับขณะเลี้ยวรถบนทางเนิน อีกทั้งไม่ได้ใช้ความเร็วสูง แต่เมื่อรู้ว่าขับทับคน กลับเลือกที่จะเดินจากไปโดยไม่รอเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบและไร้เมตตา

เบื้องต้นทราบว่าหญิงคนขับรายนี้เป็นลูกศิษย์วัดที่มักมาทำบุญประจำ และหลังเกิดเหตุได้เดินทางต่อไปทำบุญที่จังหวัดราชบุรี โดยทางเจ้าหน้าที่ของวัดได้ประสานให้ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม เข้ามาตรวจสอบ พร้อมยึดรถคันเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบทางกฎหมายแล้ว

ล่าสุด โรงพยาบาลนครปฐมเปิดเผยว่า ชายผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด โดยมีอาการหลังหัก เสียเลือด และมีโรคหัวใจร่วมด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมผ่าตัด ทีมแพทย์ให้การดูแลเต็มที่ตามมาตรฐาน พร้อมป้อนอาหารและดูแลสุขภาพจิตใจอย่างดีที่สุด ญาติของผู้ป่วยเดินทางจาก จ.พิษณุโลก เพื่อเฝ้าดูอาการแล้วในวันนี้

ขณะเดียวกัน ชาวนครปฐมและผู้พบเห็นคลิปเหตุการณ์ ต่างแสดงความห่วงใย พร้อมตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของหญิงคนขับ ว่าทำไมจึงไม่อยู่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนกว่าจะถึงมือแพทย์ และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโรงพยาบาลและมูลนิธิฯ ช่วยเยียวยาอย่างเป็นธรรม

เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาเรื่องการขาดความใส่ใจในชีวิตเพื่อนมนุษย์ ซึ่งแม้จะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่สังคมก็ยังคงเรียกร้องให้มีความรับผิดชอบและมนุษยธรรมในทุกสถานการณ์








กำลังโหลดความคิดเห็น