สุรินทร์ - บรรยากาศชายแดนด้านช่องจอม อ.กาบเชิง สุรินทร์ เริ่มผ่อนคลาย ผู้นำชุมชน ชรบ. และชาวบ้านบางส่วน ออกมานั่งจับกลุ่มคุยกันได้เป็นเช้าวันแรก หลังต้องวิ่งหลบกระสุนปืนใหญ่เขมรเข้าบังเกอร์วุ่นวายทั้งวันทั้งคืนมาเกือบ 1 สัปดาห์ แต่บอกยังไว้ใจเขมรไม่ได้ ประชาชนที่อพยพอย่าเพิ่งกลับบ้าน ส่วนตลาด ร้านค้า บ้านเรือน ปชช.ส่วนใหญ่ยังปิดเงียบ
วันนี้ (29 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศชุมชน หมู่บ้าน และร้านค้าที่บริเวณตลาดการค้าชายแดน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังจากกองทัพภาคที่ 2 กับภูมิภาคทหารที่ 4 (ฝ่ายกัมพูชา) ได้มีการเจรจาที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ตามนโยบาย “ยิงที่ไหนเจรจาที่นี่” นำโดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งได้ข้อตกลงร่วมกัน คือ การยุติการยิงโดยทันที การห้ามใช้กำลังหรืออาวุธต่อประชาชน การงดเสริมกำลัง และห้ามเคลื่อนย้ายกำลังในลักษณะที่อาจสร้างความเข้าใจผิด ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน
ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนเริ่มลดลง แม้จะยังไว้ใจฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ พบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ตลาดและร้านค้าต่างๆ ปิดกันหมด เป็นไปอย่างเงียบเหงา ขณะที่ผู้นำชุมชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และจิตอาสา ของหมู่บ้านด่าน ต่างพากันออกจากหลุมหลบภัยมานั่งคุยกันอย่างผ่อนคลาย วิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้น ตามศาลาใกล้กับหลุมหลบภัยของหมู่บ้าน ต่างจากเมื่อวานนี้ที่พากันหลบอยู่ในหลุมหลบภัยเกือบทั้งวันทั้งคืนเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องมานับสัปดาห์ หลังจากทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ตำบลด่านและพื้นที่ใกล้เคียงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นมา
ขณะที่ นายสุดศรี บัวเสน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด่าน ต.ด่าน ได้พาสื่อมวลชนเข้าไปดูรอยกระสุนปืนใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืนชนิด ค.60 ตกที่บริเวณที่ว่างเปล่าของบ้านหลังหนึ่ง จนเป็นรอยหลุมดินยุบลงไปให้เห็นขนาดใหญ่ และพบร่องรอยสะเก็ดระเบิดทะลุกำแพงคอนกรีตปูนแตกเสียหาย รวมทั้งต้นไม้ที่มีรอยสะเก็ดระเบิดจำนวนมาก และตัวบ้านที่ถูกสะเก็ดระเบิดบางส่วน ซึ่งในพื้นที่ ต.ด่าน ส่วนใหญ่ระเบิดจะลงตามไร่นาและพื้นที่ว่างเปล่า
นายสุดศรี บัวเสน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด่าน บอกว่า เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว พากันวิ่งหลบภัย ได้ยินกระสุนปืนใหญ่วิ่งข้ามหัวไป มาตกที่นี่ คาดว่าน่าจะเป็นปืน ค.60 ซึ่งน่ากลัวมาก
อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้นำชุมชน ชรบ. จิตอาสา และชาวบ้านบางส่วนที่ยังอยู่ดูแลสัตว์เลี้ยง ต่างบอกว่าเขมรเชื่อใจไม่ได้ อย่าประมาท และฝากถึงประชาชนที่อพยพว่าอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้ดูประกาศจากทางการอย่างชัดเจนก่อน