จันทบุรี –ยังไม่หมดจากไทย!! แรงงานเขมรทยอยกลับประเทศต่อเนื่อง วันนี้ที่ด่านชายแดนจันทบุรี ทะลุเกือบ 30,000 คน ส่วนจุดผ่านแดนอรัญประเทศเริ่มคลี่คลาย รมว.ท่องเที่ยวฯ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจจุดพักพิง
เมื่อเวลา 10.15 น.วันนี้ 28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่ายังคงมีแรงงานเขมรจำนวนมากทยอยเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่จุดผ่านแดนบ้านแหลม ที่พบว่ามีชาวเขมรรอข้ามแดนหนาแน่นกว่าด่านบ้านผักกาด เนื่องจากเมื่อข้ามไปฝั่ง จ.พระตะบอง แล้วจะมีรถโดยสารมารับเดินทางกลับบ้านได้สะดวก
ต่างจากฝั่งจุดผ่านแดนบ้านผักกาด ที่เชื่อมต่อกับ จ.ไพลิน ซึ่งมีเส้นทางการเดินทางค่อนข้างยากลำบากกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อนับจำนวนคนรวมทั้ง 2 จุดแล้วมีมากกว่า 30,000 คนถือว่ามากกว่าช่วงหลายวันก่อน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ได้บูรณาการการทำงานเพื่อช่วยกันจัดระเบียบแรงงาน แยกกลุ่มผู้ที่มีบัตรผ่านแดนและผู้ที่ไม่มีบัตรออกจากกันที่จุดตรวจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ ตม.อีก 2 ชุด เพื่ออำนวยความสะดวกและตรวจสอบให้รวดเร็วและรัดกุมมากขึ้น
ส่วนแรงงานที่มีบัตรอนุญาตถูกให้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ขณะที่ผู้ไม่มีบัตรต้องเข้าสู่กระบวนการสแกนลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หากพบว่ามีคดีหรือหมายจับจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่ไม่มีประวัติ เจ้าหน้าที่จะผลักดันกลับประเทศตามแนวทางด้านมนุษยธรรม
ชายแดนสระแก้วเริ่มคลี่คลาย จนท.ด่านฯ เปิดช่องเล็กให้เขมรข้าม- รมว.ท่องเที่ยวฯ ลงพื้นที่
โดยสถานการณ์บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เริ่มคลี่คลายลงแล้วหลังชาวเขมรและช่วไทยทยอยข้ามแดนไปก่อนหน้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ปริมาณประชาชนเริ่มเบาบางลง ส่งผลต่อการสัญจรที่คล่องตัวมากขึ้นและบรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างเรียบร้อย
ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในจุดพักพิงที่มีประชาชนอพยพออกจากบ้านมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ซึ่ง จ.สระแก้ว มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาราว 165 กิโลเมตร และได้มีการ ตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์รุนแรงด้วยการจัดตั้งศูนย์พักพิงจำนวน 10 แห่ง ที่จะสามารถรองรับประชาชนได้มากถึง 40,000 คน และก่อนหน้านี้ได้มีการอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบางจากพื้นที่เสี่ยงใน อ.ตาพระยาและโคกสูงแล้วประมาณ 4,000
ขณะที่ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลเคลื่อนที่สำรองเตียงไว้ 100 เตียง โดยจัดเตรียมแล้ว 70 เตียง ขณะที่โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง เช่น รพ.ตาพระยา รพ.คลองหาด และ รพ.โคกสูง ได้ปิดให้บริการชั่วคราว และมีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังรพ.วังน้ำเย็น และ รพ.เขาฉกรรจ์
สำหรับ รพ.อรัญประเทศ ซึ่งยังเปิดให้บริการอยู่ ปัจจุบันมีผู้ป่วยราว 100 เคส กำลังพิจารณาส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ชั้นใน
" วันนี้ได้มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านคลองลึก ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญของประเทศ พร้อมเข้าร่วมประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และร่วมผลักดันให้มีการเจรจากับทางการกัมพูชา จนนำไปสู่การเปิด “ช่องทางขนาดเล็ก” เพื่ออำนวยความสะดวก ในการเดินทาง ข้ามแดนให้กับประชาชนทั้งสองฝั่ง"นายสรวงศ์ กล่าว
