เชียงราย - ตึกริมฝั่งน้ำสายแนวพนังกั้นน้ำชั่วคราวเอาไม่อยู่..ฝนตกตอนเหนือน้ำสายเกิน 100 มม.หลากทะลักเหมือนปี 67 ทะลุเข้าท่วมแม่สายแล้วตั้งแต่ตีสามเศษ จนต้องระดมกำลังอุด-ย้ายข้าวของหนีกันโกลาหล แถมอีก 4 ชั่วโมงน้ำระลอกใหม่จ่อซ้ำ
วันนี้ (28 ก.ค. 68) ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทั้งในเขตภาคเหนือของประเทศไทยและรัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา ได้ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายซึ่งมีต้นแม่น้ำอยู่ในเขตรัฐฉานตะวันออกเพิ่มระดับสูงขึ้นและทะลักผ่านอาคารริมฝั่งที่ทำเป็นแนวป้องกันน้ำชั่วคราวของกรมการทหารช่าง ไหลเข้าท่วมบางชุมชนในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก แล้วตั้งแต่ 03.00 น.เศษที่ผ่านมา
โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งได้ไหลผ่านตัวอาคารที่ยังไม่ได้รื้อถอนตรงชุมชนสายลมจอย ชุมชนเกาะทราย ฯลฯ ทะลักเข้าตลาดสายลมจอยส่วนฝั่งตะวันออกของสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ทะลักไปถึงตลาดไม้ลุงขน ชาวบ้านต้องพากันขนย้ายข้าวของหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่นเพราะคาดไม่ถึงว่าน้ำจะฝ่าแนวป้องกันเข้ามาได้ รวมทั้งปริมาณน้ำมากเหมือนกับที่เคยทะลักเข้าท่วมชายแดนเมื่อปลายปี 2567 เช่นเดียวกับฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ที่มวลน้ำทะลุแนวพนังกั้นที่ก่อสร้างจนเข้าสู่บ้านปงถุน ตลาดท่าล้อ ฯลฯ
นอกจากนี้ พบว่าฝนที่ตกลงมาที่บ้านโจตาดา จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่เหนือน้ำ วัดระดับในเวลา 08.00 น.ของวันเดียวกันได้มากถึง 118.8 มิลลิเมตร และมวลน้ำดังกล่าวจะไหลไปถึงชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย ในอีก 4 ชั่วโมงข้างหน้าคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเข้าท่วมอีกอย่างต่อเนื่อง
ส่วนระดับน้ำที่บ้านโจตาดาก็เกิดภาวะล้นตลิ่งหรือมีปริมาณน้ำร้อยละ 110 แล้ว และที่สะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 อยู่ที่ระดับร้อยละ 115.15 ซึ่งอยู่ในภาวะล้นตลิ่งเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารกรมการทหารช่าง ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย เทศบาล ต.แม่สาย และเทศบาล ต.เวียงพางคำ ต้องระดมกำลังกันนำกระสอบบิ๊กแบ็กไปวางกั้นตามจุดต่างๆ ให้อยู่ในแนวที่สูงกว่าระดับน้ำ เช่น ตรงคอสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 หรือจุดที่น้ำรั่วทะลักเข้าสู่ชุมชน ฯลฯ
นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่า ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ได้ล้นแนวป้องกันน้ำท่วมที่กรมการทหารช่างก่อสร้างเอาไว้ แต่ได้ไหลทะลุแนวใต้ตึกหรือผนังริมฝั่งจนล้นเข้าสู่ชุมชน และยังมีปริมาณขยะและท่อนซุงไหลไปติดตามสะพานทำให้น้ำไหลระบายไม่สะดวก ทำให้เจ้าหน้าที่ได้พยายามนำเอาเศษสวะต่างๆ ที่ติดตามสะพานออกไปและสูบน้ำออก
รวมทั้งให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล ฯลฯ ให้ย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วเพราะได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าวันที่ 27 ก.ค.ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว
นายวรายุทธกล่าวอีกว่า เนื่องจากปริมาณน้ำจากบ้านโจตาดามีปริมาณมากจนล้นตลิ่งตั้งแต่เวลา 06.00 น. จากนั้นในอีก 4 ชั่วโมงมวลน้ำก็จะถึง อ.แม่สาย ปัญหาอุปสรรคคือขยะและท่อนซุงที่ไหลมากับน้ำ ทำให้ทางอำเภอได้ประสานกับทาง จ.ท่าขี้เหล็ก ว่าจะให้ชาวบ้านฝั่งท่าขี้เหล็กข้ามมาทำธุระในฝั่งไทยได้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะมีการปิดด่านเพื่อนำรถแบ็กโฮเข้าไปจัดการตรงสะพานแห่งที่ 1 จนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติต่อไป