ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนไทยไม่ทิ้งกัน ชาวชลบุรีรวมน้ำใจ ระดมข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภคใส่รถบรรทุกนำไปช่วยเหลือชาวบ้านและผู้ประสบภัยการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่ใกล้เคียง
วันนี้ ( 27 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณจุดรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้งและของใช้ รวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณแนวชายแดนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่ต้องอพยพไปอยู่ในจุดพักคอยหรือศูนย์อพยพต่างๆ เพื่อความปลอดภัย ซึ่งมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ (หน่วยกู้ภัยมังกร) ศาลเจ้าน่าจาซาไท้จื้อ ต.อ่างศิลา อ.เมืองชลบุรี ได้เปิดเป็นจุดศูนย์กลางในการรับบริจาค ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ (กู้ภัยมังกรชลบุรี) รวมทั้งนายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเทศเทศบาลเมืองอ่างศิลา ได้ช่วยกันขนข้าวสารอาหารแห้งและเครื่องอุปโภคบริโภคใส่รถบรรทุก เพื่อที่จะนำไปมอบให้กับศูนย์พักพิงต่างๆ
ซึ่งภาพบรรยากาศของความสามัคคีและความร่วมมือกันของชาวชลบุรีที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อคนไทยด้วยกันที่กำลังได้รับความเดือดร้อน เป็นภาพที่หลายคนบอกว่าสุดประทับใจ
ขณะที่ นายเปรม รินรัตนากร และนายศุภโชค วิทยพัฒนาการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ บอกว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณแนวชายแดน และพื้นที่ใกล้เคียงกับชายแดนที่อยู่ระหว่างการสู้รบระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาพของประชาชนที่ต้องทิ้งบ้านไปอยู่ในศูนย์อพยพหลายแห่ง
ชาวชลบุรี จึงอยากเป็นกำลังให้กับทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ด้วยการระดม ข้าวสารอาหารแห้งและเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อนไปมอบให้กับประชาชนที่อยู่ในเขตชายแดน เพื่อเป็นขวัญและ
เช่นเดียวกับ นายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา ที่บอกว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เชื่อว่าจะยังต่อเนื่องอีกหลายวันทำให้ ประชาชนในเขตชายแดนได้รับผลกระทบและขาดแคลนสิ่งของจำเป็นและเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก จึงได้ระดมกำลังชาวบ้านในเขตอ่างศิลา รวมทั้งเปิดรับบริจาคสิ่งของต่างๆ เพื่อนำไปมอบให้
“ อยากขอบคุณพี่น้องประชาชน ชาวชลบุรี ที่ร่วมแรงร่วมใจมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นำของบริจาคและมาช่วยในการขนของในวันนี้”” นายวินัย กล่าว