เลย - มาตรการซีลชายแดนได้ผล ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีสกัดจับผู้ต้องหาลอบขนยาบ้าริมน้ำโขง อ.เชียงคาน พร้อมของกลางยาบ้ามหาศาลกว่า 5 ล้านเม็ด ไอซ์ พร้อมรถยนต์ 2 คัน เรือกีบพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำ นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย พ.อ.ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี (2), นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, พล.ต.ต.วีระเดช เลขะวรกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย และนายอภินันต์ สุวรรณโค นายอำเภอเชียงคาน ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 12 กระสอบ ประมาณ 5,056,500 เม็ด พร้อมกับไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง
การจับกุมดังกล่าวมาจากมาตรการการซีลชายแดน โดยจังหวัดเลยได้ขับเคลื่อนหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งภายใต้ยุทธการ Re-X ray และป้อมยามประจำหมู่บ้าน และชุดเฝ้าระวัง สอดส่องและแจ้งเตือนเหตุผิดปกติในหมู่บ้านได้ทราบข่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดยร้อย.สกัดกั้นฯ ที่ 1 ว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะนำส่งที่ริมแม่น้ำโขง บ้านหาดแห่ ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย
จึงจัดกำลังพล นำโดย ร.อ.นรชัย ผ่องอำไพ ผบ.ร้อย.สกัดกั้นฯ ที่ 1 พร้อมกับประสานหน่วยงานความมั่นคงตามแนวชายแดน ประกอบด้วย สถานีเรือเชียงคาน ร้อย.ตชด.246 สภ.เชียงคาน และปกครอง อ.เชียงคาน ร่วมกันวางแผน และจัดกำลังซุ่มบริเวณดังกล่าว
กระทั่งเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่กำลังซุ่มตามจุด สังเกตเห็นความผิดปกติในพื้นที่เฝ้าตรวจ มีรถกระบะเข้ามาในพื้นที่บริเวณซุ่มอยู่ จึงได้ใช้กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน ตรวจสอบพบมีเรือกีบแล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาเทียบท่าฝั่งไทย พร้อมกับนำสิ่งของบรรจุในกระสอบขึ้นมาจากเรือ เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มดูจนแน่ใจว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ จับกุมชาย 1 คนได้ในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงได้ขนย้ายของกลางทั้งหมด 12 กระสอบไปยัง สภ.เชียงคาน และทำการตรวจสอบสิ่งของภายในกระสอบ เป็นห่อบรรจุยาบ้า ประมาณ 5,056,500 เม็ด เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางยาบ้าทั้งหมด พร้อมกับยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) 23.2 กรัม รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์ 1 เครื่อง เรือกีบพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
