xs
xsm
sm
md
lg

ลาวเข้มเต็นท์รถมือสองแขวงบ่อแก้ว หึ่งขนข้ามโขงถี่จ่ายคันละ 150,000 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แขวงบ่อแก้ว - สปป.ลาวตรวจเข้มเต็นท์รถมือสองแขวงบ่อแก้วผุดมากผิดสังเกต..สอดรับกระแสขบวนการค้ารถเถื่อนข้ามชาติขนถี่ยิบ นำทั้งรถยนต์-จยย.ผ่านพงหญ้าริมฝั่งลงเรือกาบ ล่องข้ามแดนแลกคันละ 150,000 บาท เผยบางคืนออกชายแดนเวียงแก่น-เชียงของ มากเป็นสิบๆ คัน



แม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ตั้งแต่เขต อ.เชียงของ ไปจนถึง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร กลายเป็นสถานที่ลักลอบส่งออกรถยนต์และจักรยานยนต์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ในฝั่งตรงข้าม

แม้สถิติการจับกุมหรือตรวจยึดของกลางจะปรากฏให้เห็นนานๆ ครั้ง แต่เป็นที่รู้กันว่าขบวนการลักลอบค้ารถเถื่อนข้ามแดนยังคงมีความพยายามจะลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงเพื่อนำไปขายในฝั่ง สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง จนมีเต็นท์รถมือสองในฝั่งแขวงบ่อแก้วเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองบัญชาการป้องกันความสงบ (ปกส.) หรือตำรวจของแขวงบ่อแก้ว ได้เข้าตรวจสอบเต็นท์รถมือสองของนางกองคำ บ้านห้วยทรายเหนือ เมืองห้วยทราย เมืองเอกของแขวงบ่อแก้ว ตรงข้าม อ.เชียงของ และในเดือน ก.ค. 2568 นี้กองบัญชาการ ปกส.แขวงบ่อแก้ว ได้มีหนังสือแจ้งถึงพนักงาน ทหาร ตำรวจ พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปทั้งในแขวงบ่อแก้วและแขวงอื่นๆ ใน สปป.ลาว ให้ผู้ที่เคยซื้อรถยนต์จากเต็นท์รถของนางกองคำ แล้วพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง กรอกเอกสารให้ครบถ้วน แล้วรายงานต่อพนักงานกองบัญชาการ ปกส.แขวงบ่อแก้ว ภายใน 20 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10-30 ก.ค.2568 รวมไปถึงผู้ที่เคยนำเงินไปฝากกับนางกองคำเพื่อรับดอกเบี้ยแม้จะยังไม่เคยได้รับดอกเบี้ยคืนด้วย หากพ้นกำหนดเวลาตามประกาศจะยุติการรับเอกสาร


ที่ผ่านมาขบวนการค้ารถเถื่อนข้ามแดนไปยัง สปป.ลาว จะใช้พื้นที่ด้าน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น ในการลักลอบส่งออกเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นพื้นที่ริมฝั่งที่ไม่มีอาคารบ้านเรือนอยู่หนาแน่นหมือนกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อยู่ห่างไกลผู้คน แต่ยังใกล้ตลาดรับซื้อในฝั่งแขวงบ่อแก้ว

ช่องทางที่มักถูกใช้ลักลอบส่งออกรถยนต์และจักรยานยนต์มักเป็นพงหญ้าหรือริมฝั่งแถบตั้งแต่บ้านเมืองกาญจน์ ต.ริมโขง อ.เชียงของ บ้านดอนมหาวัน ต.เวียง อ.เชียงของ ไปจนถึงบ้านแจ่มป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น โดยจะมีเรือกาบซึ่งเป็นเรือยนต์ขนาดเล็กจำนวน 2 ลำ แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว แล้งใช้แผ่นไม้กระดานวางเชื่อมระหว่างเรือทั้ง 2 ลำ แล้วขับเคลื่อนรถยนต์หรือจักรยานยนต์ลงไปบนแผ่นไม้กระดานได้อย่างชำนาญก่อนจะแล่นเรือข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว

ซึ่งเจ้าหน้าที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ที่ประจำการอยู่ทั้งที่ชายแดน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น ได้สกัดจับรถที่พยายามจะขับไปจอดรอเรือริมฝั่งหลายครั้ง แต่ในช่วงปี 2567-2568 นี้พบว่ากลุ่มขบวนการมีความพยายามลักลอบส่งออกอย่างต่อเนื่อง บางคืนมีกระแสว่ามีการลักลอบข้ามโขงมากถึง 10 คัน มีการจ่ายเงินให้ผู้ที่อยู่ริมฝั่งมากถึงคันละ 150,000 บาท หลังนำข้ามไปยังฝั่งลาวได้จึงมีการปรับราคารถให้สูงขึ้นเพื่อให้คุ้มกับต้นทุน ทำให้มีเต็นท์รถอยู่หลายแห่งในฝั่ง สปป.ลาว และหนึ่งในนั้นคือเต็นท์ของนางกองคำถูกเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวพบความผิดปกติและเข้าดำเนินการดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น