สุรินทร์ - ช่วงเช้าการสู้รบวันที่สามชายแดนด้านสุรินทร์เงียบผิดปกติ ทั้งแนวรบปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย อ.พนมดงรัก และช่องจอม อ.กาบเชิง หลังเมื่อวานปะทะหนักหน่วงต่อเนื่องแต่เช้ายันค่ำ พบกระสุนปืนใหญ่ตกใน อ.พนมดงรัก กว่า 40 ลูก ไม่เว้นถล่มวัด 6 ลูก ต้องนิมนต์พระ เณรอพยพหนี คอกสัตว์วัวชาวบ้านตายยกคอก ชาวบ้านอพยพเกลี้ยง
วันนี้ (26 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเช้าในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ บรรยากาศทั่วไปยังเต็มไปด้วยความเงียบสงบ ยังไม่มีเสียงปืนการปะทะกันจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งด้านปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ตามท้องถนนในหมู่บ้านก็เงียบสงบ เนื่องจากทุกคนได้อพยพออกจากหมู่บ้านไปหมดแล้ว ยังคงเหลือเพียงชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่นั่งจับกลุ่มดื่มกาแฟกันในยามเช้า ร้านขายของชำในแต่ละหมู่บ้านส่วนใหญ่ปิด เจ้าของร้านพาครอบครัวอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย สำหรับสถานการณ์การสู้รบวันนี้ ซึ่งเข้าสู่วันที่สามแล้ว หลายคนยังคงหวั่นใจว่าการสู้รบอาจจะรุนแรงหนักกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา
ขณะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เช้านี้ก็เงียบกริบ ไม่มีเสียงปืนตลอดแนวชายแดนด้าน จ.สุรินทร์เช่นกัน
สำหรับการปะทะในวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาถือว่าหนักหน่วงมาก โดยเฉพาะในช่วงเช้ามีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลายาวนาน โดยมีการหยุดพักบ้างเป็นช่วงสั้นๆ การปะทะรอบสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.35 น. ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา และเสียงปืนเงียบสงบลงมาในเวลา 19.00 น. เบื้องต้นมีรายงานจากฝ่ายปกครองว่ามีกระสุนปืนใหญ่ตกลงมาในเขตพื้นที่อำเภอพนมดงรักมาก กว่า 40 ลูก มีทรัพย์สินเสียหาย สัตว์เลี้ยงตาย คือ วัวของ นางคำพอง อาระหัง ชาวบ้านหัวอ่าง หมู่ 5 ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตาย 3 ตัว
เนื่องจากในช่วงหัวค่ำวานนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและตกปรอยๆ ตลอดทั้งคืน ทำให้บางหมู่บ้านไม่สามารถพักในหลุมบังเกอร์ได้ เพราะบางหมู่บ้านพื้นหลุมบังเกอร์ต่ำกว่าระดับพื้นดิน ทำให้น้ำไหลเข้าหลุมบังเกอร์ จึงมีการหลบมาพักอยู่ตามศาลาประชาคมหมู่บ้าน บางหมู่บ้านก็กางเต็นท์เป็นที่พักชั่วคราว โดยในเวลาค่ำคืนก็จะจัดเวรยามออกตรวจตราตามหมู่บ้านตลอดทั้งคืน เพื่อดูแลทรัพย์สินของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่อพยพออกไปอยู่ตามศูนย์อพยพหมดแล้ว
นายณัฐวุฒิ ยี่รัมย์ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านหนองแคน หมู่ที่ 6 ตำบลโคกกลาง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า หมู่บ้านของเรามี ชรบ. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งหมด 7 คน โดยในยามค่ำคืนก็จะผลัดเปลี่ยนกันออกตรวจตราตามหมู่บ้าน เพื่อป้องกันภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นการลักขโมยทรัพย์สินของชาวบ้าน ส่วนการสู้รบกันในช่วงกลางวันที่ผ่านมาไม่มีกระสุนปืนใหญ่ตก ในหมู่บ้านของเรา มีเพียงกระสุนที่ตกใกล้วัดไม่ต่ำกว่า 6 ลูก จึงได้นิมนต์พระ เณรให้ออกจากวัดและมาพักที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน เพราะที่นี่มีหลุมบังเกอร์อยู่ใกล้ๆ จะปลอดภัยกว่าหากมีการปะทะกัน
"จากการปะทะกันถามว่ากลัวไหมก็รู้สึกกลัวอยู่บ้างแต่ก็ต้องทำหน้าที่ เพราะเป็นห่วงลูกบ้าน แต่อยากฝากถึงชาวบ้านทุกคนหากมีคำสั่งจากฝ่ายปกครอง ก็อยากให้ทุกคนเชื่อฟังเพื่อความปลอดภัยของทุกคน" นายณัฐวุฒิกล่าว
